ศาลแพ่งใต้สั่งอายัดหุ้น-เงิน บัญชีพริตตี้สาว’228 ล้าน’ คดีภรรยา-บุตรชาย’ชูวงษ์’ยื่นฟ้อง

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม นายเอนก คำชุ่ม ทนายความของครอบครัวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ที่เสียชีวิตระหว่างเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อเดือนมิถุนายน 2558 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้อายัดหุ้นของนายชูวงษ์ที่อยู่ในบัญชีของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนาพล พริตตี้สาว รวมทั้งเงินในบัญชีของ น.ส.กัญฐณา กับห้ามโอนย้ายบ้านและที่ดินใน จ.นนทบุรีของ น.ส.กัญฐณาที่นำเงินจากการขายหุ้นไปซื้อมา โดยคำสั่งของศาลดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

นายเอนกกล่าวต่อว่า โดยคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว เนื่องจากนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง อายุ 52 ปี และนายกันต์ แซ่ตั๊ง อายุ 23 ปี ภรรยาและบุตรชายนายชูวงษ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายชูวงษ์ ยื่นฟ้อง น.ส.กัญฐณา พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ และพนักงานบริษัทอีก 2 คน เป็นจำเลยที่ 1-5 ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรื่องขอเรียกคืนทรัพย์สินที่เป็นหุ้นของนายชูวงษ์ จำนวน 9.5 ล้านหุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท ถูกโอนโดยมิชอบ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คืนให้กับโจทก์ทั้งสอง ที่เป็นภรรยาและบุตรชายของนายชูวงษ์ในฐานะผู้จัดการมรดก โดยยื่นฟ้องคดีเมื่อหลายเดือนก่อน โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลด้วยเพื่อขอให้อายัดทรัพย์สิน 4 รายการ ประกอบด้วย หุ้นที่เหลือจำนวน 5.7 ล้านหุ้น เงินในบัญชี หุ้น WN ที่ น.ส.กัญฐณานำเงินจากการขายหุ้นของนายชูวงษ์ไปซื้อมา และบ้านพร้อมที่ดินย่านนนทบุรี ที่มาจากเงินหุ้น

นายเอนกกล่าวอีกว่า ศาลแพ่งกรุงเทพใต้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กับภรรยาและบุตรชายของนายชูวงษ์ โดยห้าม น.ส.กัญฐณา และบริษัทโยกย้ายหุ้นทั้งหมด เงินฝากและบ้านกับที่ดิน ทั้งนี้ ตามกฎหมายฝ่ายจำเลย ยังใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ คดีที่ฟ้องนี้เป็นส่วนคดีแพ่งที่เราใช้สิทธิตามกฎหมายเรียกคืนทรัพย์สินที่มีการโอนไปโดยมิชอบ ต้องรอศาลกำหนดวันสืบพยานอีกครั้งหลังจากที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว สำหรับคดีอาญา ยังต้องรอ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สรุปความเห็นส่งให้อัยการสูงสุด หลังจากที่อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นในชั้นแรก

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวคดีเรียกคืนหุ้นนายชูวงษ์เป็นคดีหมายเลขดำ พ.1280/2559 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า หลังจากที่นายชูวงษ์ถึงแก่กรรมแล้ว โจทก์และครอบครัวได้ตรวจสอบทรัพย์สินของนายชูวงษ์ พบว่าก่อนจะถึงแก่กรรมมีการโอนหุ้นในพอร์ตบัญชีที่เปิดไว้กับบริษัท จำเลยที่ 3 และออกให้กับ น.ส.กัญฐณา จำเลยที่ 1 โดยมีข้อพิรุธหลายอย่าง หลังจากจำเลยที่ 1 รับโอนมาแล้วขายหุ้นหลักทรัพย์ EA หลายครั้ง จำนวน 3,741,000 หุ้น คงเหลือหุ้นหลักทรัพย์ EA ในบัญชีของจำเลยที่ 1 ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 จำนวน 5,759,000 หุ้น โดยจำเลยที่ 1 นำเงินที่ได้จากการขายหุ้นนั้นไปซื้อหุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคารวม 10,000,000 บาท คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินทั้ง 4 รายการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพอร์ตหลักทรัพย์บัญชีของจำเลยที่ 1

Advertisement

นอกจากนี้ยังได้ความว่า จำเลยที่ 1 นำเงินบางส่วนที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ไปซื้อบ้านพร้อมที่ดิน ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรีอีกในราคา 10 ล้านบาท กรณีฟ้องโจทก์ มีมูลและมีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีคุ้มครองชั่วคราวมาใช้ได้ก่อนคำพิพากษา ศาลจึงมีคำสั่งให้อายัดหุ้นหลักทรัพย์ EA จำนวน 5,759,000 หุ้นที่อยู่ในบัญชีหลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1, หุ้นหลักทรัพย์ WN จำนวน 10 ล้านหุ้น ซึ่งอยู่ในพอร์ตบัญชีหลักทรัพย์ของจำเลยที่ 1 พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีหลักทรัพย์ เลขที่ 909-0-45386-2 ของจำเลยที่ 1 จำนวน 55,980,275.87 บาท และดอกเบี้ยทั้งหมด และห้ามจำเลยที่ 1 ทำนิติกรรมจำหน่าย, โอนหรือสร้างภาระผูกพันใดๆ ในที่ดินโฉนด ต.ขุนกลอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image