แม่สิตางศุ์ร้อง สน.นิมิตรใหม่ ถูกแอพพ์ลวงให้กู้เงินทิพย์ หวั่นนำเลขบัญชีไปใช้

แม่สิตางศุ์ นักแสดงชื่อดังพร้อมทนายความ นำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับแก๊งมิจฉาชีพ หลอกปล่อยกู้เงินออนไลน์

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 มิถุนายน ที่ สน.นิมิตรใหม่ นายสิตางศุ์ บัวทอง หรือแม่สิตางศุ์ พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เข้าพบ พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สน.นิมิตรใหม่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่หลอกปล่อยกู้เงินออนไลน์

นายสิตางศุ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ช่วงเย็นได้เข้าไปเล่นเฟซบุ๊กก็พบโพสต์โฆษณาปล่อยเงินกู้ด่วน ดอกเบี้ยต่ำของบริษัทแห่งหนึ่ง (ASIA WEALTH PLUS) ปรากฏขึ้นมาจึงลองติดตามไปตามลิงก์ดังกล่าว จนไปเชื่อมโยงเข้ากับบัญชีไลน์ของบริษัทดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทแจ้งว่าเป็นบริษัที่มีตัวตนอยู่จริง เป็นบริษัทที่ถูกกฎหมาย โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ สามารถตรวจสอบการจดทะเบียนได้ โดยจะให้ตนกู้เงินดอกเบี้ย 3% นาน 60 เดือน โดยให้ตนส่งข้อมูลส่วนตัว บัญชีธนาคาร บัตรประชาชน พร้อมภาพถ่ายคู่บัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวบุคคล จากนั้นเมื่อตนกรอกข้อมูล พร้อมส่งเอกสารออนไลน์เพื่อกู้เงิน 1,000,000 บาท ไม่นานก็ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้ตนเอง 500,000 บาท

นายสิตางศุ์กล่าวอีกว่า ทว่าทางบริษัทกลับแจ้งว่าเลขบัญชีธนาคารของตน 2 ตัวท้ายนั้นผิดไป ไม่สามารถที่จะโอนเงินกู้ให้ได้ แต่ยืนยันว่าเลขบัญชีธนาคารของตนถูกต้อง เนื่องจากใช้ในการทำธุรกิจซื้อขายซิมการ์ดโทรศัพท์ ต้องเป็นอีกฝ่ายที่แก้เลขบัญชีให้ผิดแน่นอน จากนั้นบริษัทก็อ้างว่าระบบถูกล็อกจากการใส่เลขบัญชีผิด ต้องให้ตนโอนเงิน 59,000 บาท เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน หลังจากนั้นทางบริษัทจะโอนเงินคืนกลับมาให้ 559,000 บาท ภายใน 30 นาที ซึ่งเป็นวงเงินกู้ 500,000 บาท รวมกับเงินที่โอนไปยืนยันตัวตน 59,000 บาท

Advertisement

นายสิตางศุ์กล่าวอีกว่า หลังจากได้ฟังเจ้าหน้าที่ ก็ทราบแล้วว่าเป็นการหลอกลวง จึงไม่ยอมโอนให้ ทางบริษัทได้ข่มขู่ตนว่าหากไม่โอนเงินไปให้เป็นการยืนยันตัวตน จะถูกทางบริษัทฟ้องร้องว่ามีความผิดเข้าข่ายทุจริต ฟอกเงิน ผิดกฎหมายอาญา เพราะมีการแจ้งเอกสารบัญชีธนาคารเท็จ วันนี้จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว เพื่อปกป้องตนเองและไม่ให้ผู้อื่นถูกหลอกลวง

ด้านนายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมาแจ้งความ เพราะการที่นายสิตางศุ์ส่งเอกสารหลักฐาน ข้อมูลส่วนบุคคล และบัตรประชาชนต่างๆ ไปให้ อาจถูกนำไปใช้ในสัญญากู้เงินแล้ว หรือตกเป็นลูกหนี้แล้วแต่ไม่ได้เงิน ดังนั้น จึงต้องมาแจ้งความไว้ พร้อมเอกสารหลักฐานของทางบริษัทที่ได้ใช้ติดต่อกับนายสิตางศุ์ โดยจะแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข่มขู่ทำให้กลัว รวมถึงขอให้ตำรวจตรวจสอบว่าบริษัทแห่งนี้อยู่สมุทรปราการจริงหรือไม่ ใครเป็นประธานและกรรมการบริษัท รวมถึงทราบว่ามีชื่อทนายความคนหนึ่งเป็นที่ปรึกษาบริษัทด้วย ดังนั้น หากเป็นทนายจริง ก็จะผิดมารยาททนายความด้วย

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image