ศาลปกครองกลาง ชี้ กสทช. มีอำนาจระงับดีลควบรวม ทรู-ดีแทค

ศาลปกครองกลาง ชี้ กสทช. มีอำนาจระงับดีลควบรวม ทรู-ดีแทค

ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งชัด กสทช.มีอำนาจสั่งห้ามควบรวม ทรู-ดีแทค ตามประกาศปี 61 และ ปี 49 หากเสี่ยงผูกขาด เป็นเหตุให้ยกคำร้อง ณภัทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความชัดเจนเรื่องการพิจารณาดีลการควบรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค เริ่มมีความชัดเจนขึ้นมาแล้ว หลังจากเป็นที่ถกเถียงจากหลายฝ่ายเกี่ยวกับอำนาจของ กสทช. ว่ามีอำนาจที่จะ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” การควบรวมหรือไม่ โดยประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่นายณภัทร วินิจฉัยกุล นักกฎหมาย หรือ อดีตหนี่งในซูเปอร์บอร์ด กสทช. ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยมีบอร์ดกสทช.เป็นผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ทุเลาชั่วคราวคำสั่งประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค.2560 (“ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ”)

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของนายณภัทร ที่ยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ ไว้ก่อน
โดยศาลปกครองกลางได้พิจารณาจากประกาศควบรวมปี 2561 ประกอบกับประกาศ เรื่อง ป้องกันการผูกขาดปี 2549 และได้ให้เหตุผลที่สำคัญในการยกคำร้องว่า “… หากผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) พิจารณาเห็นว่าการรวมธุรกิจดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคม ผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) ก็มีอำนาจสั่งห้ามการรวมธุรกิจได้ ดังนั้น ในชั้นนี้จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย…” ซึ่งคำสั่งที่ยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด จะอุทธรณ์ต่อไปไม่ได้

Advertisement

ดังนั้น ถือว่าเจตนารมณ์ในการร้องของนายณภัทร ที่เรียกร้องให้ กสทช. ใช้อำนาจที่มีอยู่ในการพิจารณาสั่งไม่อนุญาตการควบรวมนั้น ได้บรรลุผลไปแล้วในขั้นแรก เพราะที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. และกสทช.ชุดเดิม อ้างอิงแต่การนำฉพาะประกาศปี 2561 มาอธิบายว่า ตนมีหน้าที่แค่รับทราบการขอควบรวมกิจการเท่านั้น และไม่มีอำนาจสั่งห้ามการควบรวมได้ จึงเป็นเหตุให้นายณภัทร ต้องมาฟ้องร้องต่อศาลปกครองกลางดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงาน จากนี้ไป ก็ต้องจับตามองไปที่ กสทช. ชุดใหม่ ว่าจะพิจารณาดีลควบรวมนี้อย่างไร เพราะศาลปกครองได้ระบุอย่างชัดเจนแล้ว กสทช. มีอำนาจเด็ดขาดที่จะ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” ดีลการควบรวมนี้ ไม่ใช่แค่รับทราบและปล่อยผ่านไป และตามที่อนุกรรมการด้านกฎหมาย ที่กสทช.ตั้งขึ้นมาก็มีเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ไปก่อนหน้านี้แล้ว 10 ต่อ 1 โดยระบุว่า กสทช.มีอำนาจที่จะพิจารณาไม่อนุญาตดีลนี้ได้ ดังนั้น คงต้องจับตาดูว่าภายในวันที่ 10 ก.ค. 2565 นี้ บอร์ด กสทช.จะมีมติเกี่ยวกับดีลควบรวมดังกล่าวนี้ออกมาอย่างไร

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image