ตร.คุมตัวเจ้าของดารุมะซูชิฝากขังผัดแรก ค้านประกันตัว เผยธุรกิจขาดทุน มีหนี้ 100 ล.เร่งเช็กเส้นทางเงิน
วันที่ 23 มิถุนายน ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค จะนำตัวนายเมธา ชลิงสุข อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ไปฝากขังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัว และจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล
โดยก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุมนายเมธาได้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังจากนั่งเครื่องบินกลับมาจากไต้หวัน ก่อนนำตัวมาที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สอบปากคำด้วยตนเอง
พล.ต.ท.จิรภพเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด จดทะเบียนบริษัทเพื่อประกอบกิจการร้านอาหาร เครื่องดื่ม โดยมีนายเมธา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ต่อมาบริษัทประกาศขายคูปองบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นทางเพจเฟซบุ๊กให้กับประชาชนในราคา 199 บาท
ต่อมาผู้เสียหายที่มีความสนใจ ซื้อคูปองดังกล่าวจำนวนมาก นอกจากนี้ ทางบริษัทเปิดการซื้อแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีทั้งหมด 27 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล จากนั้นวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร้านดารุมะ ซูชิ ปิดกิจการทุกสาขาประชาชนไม่สามารถติดต่อทางบริษัทและนายเมธาได้ จนเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา
ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย ผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จึงนำกำลังจับกุม
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ชั้นจับกุมสอบสวนนายเมธา ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยผู้ต้องหากล่าวว่า การเงินขาดสภาพคล่อง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 จึงออกคูปองบุฟเฟต์ราคา 199 บาท เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพราะมีปัญหาการเงินอย่างหนัก เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายคูปองมาใช้จ่ายในระบบ แต่สุดท้ายกลับดำเนินกิจการต่อไปไม่ได้ ประกอบกับถูกติดตามทวงหนี้กว่า 100 ล้านอย่างหนัก จึงหลบหนีไปตั้งหลักที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.มีการเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ภายหลังรับชมข่าว ประกอบกับถูกกดดันอย่างหนัก จึงเดินทางกลับมาประเทศไทยโดยเปลี่ยนเครื่องบินที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งจากคำให้การ คำบอกเล่าทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลอาญาวันที่ 23 มิ.ย.
พล.ต.ท.จิรภพกล่าวอีกว่า ตำรวจอายัดเงินได้หลักแสนบาท และตรวจยึดเงินสดประมาณ 710,000 บาท หลังจากนี้ทางตำรวจจะสืบสวนสอบสวนขยายผลในเรื่องเส้นทางการเงินว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปที่บุคคลอื่นหรือไม่ หากพบว่ามีเส้นทางการเงินไปถึงบุคคลใดจะเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฟอกเงิน รวมถึงขยายผลผู้ร่วมขบวนการ ทราบว่าขณะนี้มีนายเมธาก่อเหตุคนเดียว
ผบช.ก.กล่าวว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความด้วยตัวเองมากกว่า 100 คน และแจ้งความทางออนไลน์มากกว่า 300 คน ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลายพันคนมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยรายงานไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้ทั้งที่ บก.ปคบ. และสถานีตำรวจในท้องที่
รายงานข่าวแจ้งว่า แนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีปัญหาหนี้สินจากการประกอบธุรกิจ และไม่สามารถหาเงินไปชำระค่าวัตถุดิบ ทำให้ผู้ผลิตสินค้าไม่นำสินค้ามาจำหน่ายให้กับบริษัทจึงเป็นเหตุให้ร้านไม่สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีบริษัทดารุมะ ซูชิ กว่า 303,447,243 บาท ส่วนความเสียหายพบว่ามียอดขายคูปองผ่านแอพพลิเคชั่น 174,177 ใบ ลูกค้ากว่า 33,002 คน คิดเป็นมูลค่า 27,070,915 บาท และมูลค่าความเสียหายจากผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์มาทำธุรกิจ อีก 17,500,000 บาท
