“พจน์ อานนท์” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกอดีตคู่กรณีขับเบนซ์หัวร้อนแจ้งความกลับ ปมโพสต์คลิปจอดรถขวาง
จากกรณีนายอานนท์ มิ่งขวัญตา หรือ พชร์ อานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถพร้อมระบุว่า มีผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ จอดขวางทางและลงจากรถมาทุบกระจก บริเวณสามแยกประชาร่วมมิตร เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนเข้าแจ้งความกับ สน.ห้วยขวาง จนมีการออกหมายเรียกผู้ขับรถเบนซ์คันดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 ข้อหา โดยผู้ขับรถเบนซ์คันดังกล่าวเป็นอดีตรองประธาน สายงานฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยมีคดีชักปืนขู่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อปี 2560 นั้น
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 มิถุนายน ที่ สน.ห้วยขวาง นายอานนท์ มิ่งขวัญตา หรือ พชร์ อานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ พร้อมด้วย นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.วิชา ซุ่มทองหลาง รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังถูกคู่กรณีที่ขับรถเบนซ์ดังกล่าว มาแจ้งความเอาไว้
นายอานนท์ กล่าวว่า เมื่อทราบว่าถูกหมายเรียก ตนยังอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะปรึกษานายนิติธร เพื่อมาเข้าพบตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ มาจากประเด็นที่มีข่าวคนขับรถเบนซ์ปาดหน้ารถตนเอง ซึ่งก็ไม่ได้รู้จักกับคู่กรณีเป็นการส่วนตัว ขณะเกิดเรื่องก็รู้สึกตกใจ คิดอะไรไม่ออก จึงส่งคลิปไปปรึกษาเพื่อนว่าต้องทำอย่างไร เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตนเอง และเพื่อนก็แนะนำให้มาแจ้งความไว้ ก่อนที่ช่วงดึก ตำรวจจะแจ้งกลับมาว่าทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่เจ้าตัวไม่ยอมเข้าพบ จึงออกหมายเรียกตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทั้งตนและคู่กรณีก็ไม่ได้โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถลงสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ไม่รู้สึกกังวลที่ได้รับหมายเรียก หากตนเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็คงเข็ดเพราะตั้งใจจะเตือนให้ผู้ขับรถบนถนนทราบเท่านั้นว่าหากเจอเหตุการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไร
ขณะที่ นายนิติธรกล่าวว่า การแจ้งความกรณีนี้ถือเป็นการใช้สิทธิของผู้กล่าวหา แต่การเผยแพร่คลิปดังกล่าวนั้นก็ต้องดูวัตถุประสงค์ หากเป็นการทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเสื่อมเสียก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ส่วนตัวก็ยังไม่ทราบว่าผู้กล่าวหาได้ใช้คลิปใดมาแจ้งความ
รายงานข่าวแจ้งว่า คนขับรถเบนซ์คู่กรณีได้มารับทราบข้อกล่าวหาตามนัดหมายเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนไปรับโทษเปรียบเทียบปรับที่ศาล เป็นเงิน 9,000 บาท และนอกจากนายอานนท์ ที่ถูกแจ้งความจนมีการออกหมายเรียกนั้น ทางคู่กรณียังแจ้งความผู้ที่คอมเมนต์ต่อว่าบนโพสต์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์อีก 10 กว่าคน
