ตร.คุมเข้มลอยกระทง ระดมกวาดล้าง4-13พ.ย. เฝ้าระวัง”ประทัด โป๊ะเรือ”

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ด้วยวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นประเพณีวันลอยกระทง จะมีการประดับโคมประทีปตามลำน้ำ และมีการจัดงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ประกอบกับในวันดังกล่าวยังอยู่ในห้วงเวลาที่ประชาชนร่วมกันแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประมาณการว่าจะมีประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกภูมิภาค เดินทางเข้ามาเพื่อถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระบรมมหาราชวัง รวมถึงสถานที่ที่จัดให้มีการถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ อาจทำให้เกิดปัญหาการจราจร ปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนและอันตรายที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย เพื่อให้การดำเนินการป้องกันอาชญากรรมและการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงประจำปี 2559 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีวิทยุสั่งการกำชับไปยังทุกหน่วยในสังกัดให้ถือปฏิบัติดังนี้

“กำชับให้ตำรวจออกตรวจตราตามพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น สถานบริการ โดยควบคุมให้เปิดปิดตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และห้ามมิให้มีการแสดงลามกหรืออนาจารโดยเด็ดขาด สถานบันเทิง ชุมชน สวนสาธารณะ หรือสถานที่ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง หรือจัดกิจกรรมรื่นเริง และมีประชาชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก สถานที่ที่มีรถจอดเป็นจำนวนมาก การดูแลเยาวชนกลุ่มเสี่ยง การติดตามและสอดส่องบุคคลเป้าหมายหรือที่มีพฤติการณ์เป็นอันตรายต่อสังคม การควบคุมการจำหน่ายและการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผิดกฎหมายเพื่อป้องกันมิให้เกิดคดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย เพศ และทรัพย์ นอกจากนี้ ให้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจ เพื่อป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนกระทำผิดหรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมและอบายมุข รวมทั้งให้ประสานงานกับฝ่ายปกครอง และหน่วยทหารในพื้นที่เพื่อบูรณาการสรรพกำลัง ในการปฏิบัติงาน และให้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรับผิดชอบในการจัดงานและประชาชนในการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขี้นจากไฟไหม้ เพราะการลอยโคมไฟ การยิงพลุ การจุดประทัด หรือการจุดดอกไม้เพลิง ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำจัดเรือออกตรวจตราบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำได้อย่างทันท่วงที” ผบ.ตร.เผย

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลวันลอยกระทงช่วงเวลา10วัน ตั้งแต่วันที่ 4-13 พฤศจิกายน โดยการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณรอบพื้นที่จัดงาน และให้จัดสายตรวจเดินเท้าในบริเวณงาน โดยมุ่งเน้นการปราบปราบการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีชีวิต ร่างกาย และเพศ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะการปล้นทรัพย์และชิงทรัพย์ธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง-แก๊ส สถานที่ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าตลอด24ชั่วโมง และสถานประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก คดีอาชญากรรมอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามสถานีขนส่ง สถานที่พักผู้โดยสาร แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่ที่มีการจัดงานหรือจัดกิจกรรมรื่นเริง และมีประชาชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก คดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย เช่น ความผิดเกี่ยวกับการพนัน อาวุธปืน ยาเสพติด และสถานบริการ รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งให้กวดขันจับกุมผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัดในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน หรือในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในกรณีที่ผู้กระทำเป็นเด็กให้ดำเนินการกับผู้ปกครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ประจำบริเวณสถานที่จัดงานลอยกระทงและเส้นทางหลักที่มีการจราจรหนาแน่น โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเส้นทางรองรับการจราจรที่หนาแน่น ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรในพื้นที่การจัดงานอย่างเคร่งครัด รวมทั้งตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่ยานพาหนะในบริเวณเส้นทางเข้าออกพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลลอยกระทง ดังนี้ 1. ห้ามจุดดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย ในลักษณะที่สร้างความหวาดกลัวและอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้อื่น 2. ไม่ควรแต่งกายด้วยการประดับของมีค่า หรือนำทรัพย์สิน หรือเงินติดตัวไปในที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการปิดช่องโอกาสในการประทุษร้ายต่อทรัพย์ของอาชญากร 3.ให้ระมัดระวังการใช้บริการทางเรือหรือโป๊ะในการสัญจรทางน้ำ โดยไม่แย่งกันใช้บริการและหากมีผู้โดยสารนั่งเต็มลำเรือแล้ว ควรรอเพื่อเลือกใช้บริการของเรือลำถัดไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ 4.ผู้ปกครองควรกำชับบุตรหลานให้ระมัดระวังการถูกหลอกลวง และไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เด็กไปเที่ยวงานโดยลำพัง ทั้งนี้ควรมีผู้ปกครองไปด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันเด็กหายหรือพลัดหลงผู้ปกครองควรเขียนชื่อ (ผู้ปกครองและเด็ก) ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ ติดตัวเด็กไว้เพื่อสะดวกต่อเจ้าหน้าที่ในการนำเด็กส่งคืน 5.ให้ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณ ห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2555 โดยห้ามมิให้ผู้ใดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่ หรือในขณะโดยสารอยู่ในรถหรือบนรถ และ6. หากพบสิ่งบ่งชี้ที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรม หรือพบเห็นการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอย ในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรืออันอาจเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน สามารถแจ้งเบาะแสและข้อร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 และสายด่วน 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image