เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ผอ.ศอ.ปส.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ รองผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อำมาตย์โยธิน รอง ผบก.ปส.4 ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.ปส.4 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ภาคใต้ สืบสวนเฝ้าติดตามขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดที่นำไปจำหน่ายในภาคใต้ ทำการจับกุมผู้ต้องหา 7 ราย ประกอบด้วย นายลุกมัน เจ๊ะดือราแม อายุ 40 ปี, น.ส.วนิดา อาแซ อายุ 41 ปี, นายแวแม ลอแม อายุ 38 ปี, นายดากี มือลี อายุ 38 ปี, นายอาลาดิง ดิงปอ อายุ 33 ปี, นายมะเปาซี สาและ อายุ 24 ปี และ นายนครินทร์ สาและ อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์บรรจุอยู่ในถุงชาจีน 631 ห่อ ห่อละ 1 กิโล ใส่ไว้ในกระสอบ 14 กระสอบ รวมน้ำหนัก 631 กิโลกรัม, โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง, รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌภ 649 กรุงเทพมหานคร, รถกระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ขฎ 4330 กรุงเทพมหานครกทม. และรถกระบะ มิสซูบิชิ ไตตัน แคป สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ฒถ 8354 กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.4 ร่วมกับ, ตำรวจกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด (บก.ขส.), เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด (บก.สกส.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 402,000 เม็ด และอายัดทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 1.2 ล้านบาท ได้ที่บริเวณ ถนนไม่มีชื่อ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จากนั้นได้สอบสวนขยายผล จนกระทั่งได้ทราบข้อมูลของขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดที่นำยาเสพติดมาขายในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้เฝ้าติดตามและวางแผนจับกุมเรื่อยมา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปส.4 ได้สืบสวนขบวนการยาเสพติดจนทราบเบาะแสว่า ขบวนการนี้จะขนยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลางไปพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งทราบว่า ขบวนการนี้กำลังลำเลียงยาเสพติดลงมาภาคใต้ จึงเฝ้าติดตามจับกุม จนกระทั่งพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ต้องสงสัย 2 คัน ขับเข้าด่านตรวจตำรวจทางหลวง ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา จึงได้เรียกตรวจค้น ขณะที่รถกระบะ มิซซูบิชิ ไตตัน แคป สีขาวคันอีกคันที่ตามหลังมาได้จอดหลบเข้าข้างทางก่อนถึงด่านตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่สะกดรอยติดตามอยู่ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบนายลุกมัน เป็นผู้ขับมี น.ส.วนิดา นั่งข้าง และ นายแวแม นั่งเบาะหลัง ตรวจสอบภายในแคปพบของกลางไอซ์ 14 กระสอบ รวม 631 ก้อน น้ำหนักประมาณ 631 กก. จากนั้นจึงได้ตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่อยู่ภายในรถยนต์อีกสองคัน
สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันขนไอซ์ จาก อ.บางเลน จ.นครปฐม ไปส่งให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง บก.ปส.4 ดำเนินคดีต่อไป รวมถึงยึดอายัดทรัพย์ของขบวนการนี้ในเบื้องต้น ประกอบด้วย รถยนต์ 3 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง รวมมูลค่าประมาณ 5.1 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้ ชุดปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. ได้สืบสวนขยายผลและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการขนลำเลียงยาเสพติดนี้ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา กระทั่งจับกุมตัวได้ โดยมีข้อมูลว่ายาเสพติดล็อตนี้น่าจะผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย เนื่องจาก บช.ปส. ได้ควบคุมการส่งยาเสพติดที่ท่าเรือและสนามบินอย่างเข้มงวด ขบวนการขนลำเลียงจึงเปลี่ยนมาใช้ทางถนน หากไอซ์ล็อตนี้หลุดรอดไปขายในต่างประเทศจะมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ บช.ปส.จะขยายผลจับกุมหัวหน้าขบวนการและเครือข่ายทั้งหมดต่อไป
