คำจากปาก”จ่าหม่ำ-ดาบจอร์ช”เมื่อถูกผลักไสเป็นจำเลยสังคม กับข้อเท็จจริงที่รอการพิสูจน์

ภาพเล็กซ้าย-ด.ต.สุรพงศ์ โพธิจักร ผบ.หมู่ ป.ช่วยงานสืบสวน สน.สุทธิสาร หรือจ่าหม่ำ ภาพเล็กขวา-ด.ต.กิตติพงษ์ เพชระ ผบ.หมู่.สส.สน.สุทธิสาร หรือดาบจอร์ช

จากกรณีนายดอน แดงจันติ๊บ อายุ 34 ปี เสียชีวิตระหว่างการจับกุมนักพนันไฮโลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.สุทธิสาร บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 181 ชุมชนรุ่งเรืองตอนปลาย ซอย 2 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซอยรุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 2 พฤศจิกายนนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ด.ต.สุรพงศ์ โพธิจักร ผบ.หมู่ ป.ช่วยงานสืบสวน สน.สุทธิสาร หรือจ่าหม่ำ ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม เปิดเผยกับ“มติชน”ถึงเหตุการณ์ขณะจับกุมว่า

“วันนั้นเป็นหัวหน้าชุดจับกุมเนื่องจากชำนาญในพื้นที่ดังกล่าว ขณะร่วมกับตำรวจอีก6นายออกตรวจตามปกติ พบว่ามีการเล่นการพนันไฮโลมีคนเล่นอยู่2คน หนึ่งในนั้นคือนายดอน เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นนายดอนได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นทางตัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งตามจับใส่กุญแจมือแล้วนำตัวมานั่งไว้ ระหว่างนั้นผมพูดคุยกับ”นายมิ”(หนึ่งในพยานที่เห็นเหตุการณ์) ว่ารู้จักกับนายดอนหรือไม่ หากรู้จักช่วยพูดกับนายดอนทีว่าอย่าขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยเพราะเป็นเพียงโทษการพนัน ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีอะไรขนาดนั้น พูดยังไม่ทันจบ นายดอนก็กระโดดวิ่งหนีจนกุญแจมือหลุด พร้อมทั้งชก ด.ต.กิตติพงษ์ เพชระ ผบ.หมู่.สส.สน.สุทธิสาร หรือดาบจอร์ช จนปากแตก”

“จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ยุทธวิธีในการควบคุมตัวจึงเตะตัดขาเพื่อให้นายดอนล้มลง ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนเนื่องจากนายดอนมีน้ำหนักมาก2-3 คนเอาไม่อยู่ เจ้าหน้าตำรวจกดลงตรงขาอ่อน บางคนกอดเอวไว้ เพื่อให้ล้มเมื่อล้มแล้วก็พยายามใส่กุญแจมืออีกครั้ง แต่นายดอนนอนทับแขนตัวเองไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามพลิกตัวกลับมา แต่ปรากฏว่าไม่สามารถพลิกได้เนื่องจากตัวใหญ่ สำหรับคลิปที่ปรากฏตำรวจใช้ขาเหยียบนั้นเพื่อไม่ให้ดิ้นหนีไป แต่เมื่อใส่กุญแจมือด้านหลังไม่ได้ จึงใส่กุญแจมือที่ด้านหน้า”

Advertisement

เมื่อถามว่ามีพยานระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเต็มตัวบนข้อเท้าและยืนเต็มตัวบนลำตัวนายดอน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ด.ต.สุรพงศ์ กล่าวว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนยืนเต็มตัวเลย เมื่อนายดอนล้มลงพบว่าดิ้นขัดขืนตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดบริเวณด้านหลัง อีกคนกดบริเวณข้อเท้าเพื่อไม่ให้ดิ้น นายดอนมีพฤติกรรมขัดขืนตลอด หากดูภาพจากกล้องวงจรปิดดีๆไม่มีใครวิ่งไปเตะหรือต่อย กล้องวงจรปิดที่บันทึกนั้น แค่ตำรวจไปยืนปล้ำก็หาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรุมกระทืบ ไม่ใช่เลย คิดกลับกันเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมีอาวุธติดตัว แต่ยังไม่มีใครชักอาวุธออกมา ใช้เพียงมือเปล่าเพราะคิดว่าเป็นคดีการพนันเท่านั้น จริงๆใช้การพูดคุยดีๆก็ได้ หากผู้ต้องหาไม่มีการหลบหนี จากนั้นเมื่อใส่กุญแจมือเสร็จเขาก็เหนื่อยสักพักก็นิ่งไปเลย จึงเรียกพยาบาลมาตรวจสอบ

“วันแรกที่มีการนำเสนอข่าวออกไปนั้นที่ออกมาว่าตำรวจรุมกระทืบนั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดทำให้โลกโซเชียลกระหน่ำตำหนิ ตำรวจอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนไม่เคยรู้จักผมก็มาคอมเมนท์ว่า “ไอ้หม่ำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้” ยอมรับว่าตอนแรกเกิดความกังวลว่าคนจะมองเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไร จะมองไปทางไหน แต่ข้อเท็จจริงรู้อยู่แล้วชุดจับกุม7นายไม่ได้ทำอะไรผิด ผลตรวจพิสูจน์ออกมาชี้ชัดแล้วว่า ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทืบ อาจจะมีการปล้ำกันกอดกัน เป็นยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ตำรวจเราไม่ได้ทำนอกเหนือจากนั้น การพนันแค่นี้เองเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่คิดสั้นจะรุมกระทืบ ชาวบ้านก็มี กล้องวงจรปิดก็มี เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามผู้บังคับบัญชาได้เรียกไปพูดคุยให้กำลังใจ ว่าเราคนทำงาน หากไม่ทำก็ไม่เกิดเรื่อง แต่เราเป็นตำรวจ ต้องทำตามหน้าที่ ต้องเข้าไปตรวจดูแลความสงบของชุมชน ผู้บังคับบัญชาตั้งกรรมการการสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ผมเชื่อว่าข้อเท็จจริงคือข้อเท็จจริงอย่างไรเสียเราไม่สามารถหนีข้อเท็จจริงได้ ประจักษ์พยานมี กล้องวงจรปิดมีหมด ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้เป็นเรื่องของคดีไป”

ด้านด.ต.กิตติพงษ์ เพชระ ผบ.หมู่.สส.สน.สุทธิสาร หรือดาบจอร์ช หนึ่งในชุดจับกุมที่ถูกชกปากแตก เล่าว่า สำหรับกระแสข่าวที่ออกไปนั้น รู้สึกไม่ยุติธรรม คนตัดสินใจไปก่อนแล้วทั้งๆที่ผลชันสูตรศพยังไม่ปรากฏ มีพยานบางคนกล่าวหาว่าผมไม่ใช่ตำรวจซึ่งไม่เป็นความจริง แต่อาจเพราะผมเพิ่งเข้ามาประจำที่สน.สุทธิสารเพียง1ปีกว่า ผมเป็นตำรวจสายสืบจะมาประกาศให้คนรู้คงไม่ใช่ แต่ทุกครั้งการเข้าจับกุมแสดงตัวตลอด ส่วนใหญ่จะรู้จักกับจ่าหม่ำมากกว่า เพราะอยู่พื้นที่มา 8-9 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อมีกระแสข่าวออกไปก็ได้รับผลกระทบ มีคนสอบถามผ่านทางภรรยาและบิดา แต่เนื่องด้วยครอบครัวรับราชการจึงเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

Advertisement

“ขอยืนยันว่าไม่มีตำรวจคนไหนอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ทำตามหน้าที่ อย่างไรก็ดีขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย”ด.ต.กิตติพงษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image