เผยก่อนเกิดเหตุอดีต ตร.คลั่งยิงศูนย์เด็กตอนเช้าไปขึ้นศาลครอบครองคดียาบ้า 1 เม็ดกับเเม่ ศาลให้กลับบ้านไปนำประวัติมายื่นก่อนนัดพิพากษาพรุ่งนี้ ไม่พบมีอาการเครียดตอนอยู่ในศาลเหตุเป็นคดีโทษน้อย
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ โฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ในช่วงเช้า ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ ผู้ก่อเหตุกราดยิงในศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง ใน อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เดินทางไปยังศาลจังหวัดหนองบัวลำภู โดยศาลนัดแถลงปิดคดีครอบครองยาเสพติดปี 2564 ก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 7 ตุลาคม หลังเสร็จสิ้นกระบวนการที่ศาล ส.ต.อ.ปัญญาเดินทางไปรับลูกที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นคาดว่าเกิดอาการเครียดจากคดีและหลอนยาเสพติด โดยทราบว่าหลังถูกจับกุม ส.ต.อ.ปัญญาใช้ยาเสพติดมาโดยตลอด จากนั้นก่อเหตุใช้อาวุธมีด และปืนยิงเด็กภายในศูนย์ ครูและเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตภายในศุนย์ 24 ราย จากนั้นพาลูกขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางได้ขับรถชน และยิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตภายนอกอีก 9 ราย เมื่อถึงบ้านจึงยิงภรรยาและลูก ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านพัก
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับรายละเอียดคดี ส.ต.อ.ปัญญา เป็นคดีที่ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ ย553/2565 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดหนองบัวลำภู โจทก์ ส.ต.อ.ปัญญาหรือแมน คำราบ จำเลย ถูกฟ้องในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนฯ) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต) จำนวน 1 เม็ด ในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวตั้งแต่ชั้นสอบสวนตลอดจนชั้นพิจารณา
ต่อมาวันนัดสอบคำให้การ วันที่ 18 เมษายน 2565 จำเลยแถลงว่าไม่มีและต้องการทนายความ ศาลจึงแต่งตั้งทนายความขอแรงให้ และเลื่อนนัดคดีไปเข้าศูนย์คุ้มครองสิทธิในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 และยืนยันให้การปฏิเสธตามฟ้อง จึงนำคดีเข้าสืบพยานต่อเนื่อง โดยมีนัดครั้งแรก (ครั้งเดียว) วันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยที่ในวันเดียวกันนี้ ทนายจำเลย และจำเลยมาศาล และยื่นคำร้องขอให้ศาลออกนั่งพิจารณาจำเลยอีกครั้ง ศาลมีคำสั่งอนุญาต ซึ่งระหว่างที่จำเลยกลับบ้านเพื่อไปนำเอกสารมาประกอบการพิจารณาคดีของศาลนั้น จำเลยได้ก่อเหตุกราดยิง 36 ราย ตามที่เป็นข่าว
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ส.ต.อ.ปัญญาไม่ได้มีการเเสดงอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใดซึ่งคดีครอบครองยาบ้าเพียง 1 เม็ดนั้นมีอัตราโทษไม่สูงและมีโอกาสได้รับการรอลงอาญา
