จากกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟซีซีที) ออกแถลงการณ์ “แสดงความวิตกกังวล” ต่อการรายงานข่าวของทีมผู้สื่อข่าวและช่างภาพจากสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ซึ่งเข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งที่เป็นจุดเกิดเหตุหลักของโศกนาฏกรรม ต่อมาฝ่ายสื่อสารของซีเอ็นเอ็น ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ยืนยันการลงพื้นที่ถ่ายทำพร้อมกับสื่อมวลชนจากอีกหลายสำนัก และระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 คน อยู่ในพื้นที่ด้วยตลอดการถ่ายทำภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น แต่เมื่อกลับมาออก พบว่าเจ้าหน้าที่นำแถบที่กั้นมาติดตั้งไว้เหมือนเดิม ส่งผลให้ผู้สื่อข่าวต้องปีนออกมา
- สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ เรียกร้อง CNN ชี้แจงกรณีละเมิดจริยธรรมรายงานข่าว ‘กราดยิง’
- CNN ยันเข้าศูนย์เด็กพร้อมสื่ออื่น จนท.ในตึกไฟเขียว ตอนเข้าไม่มีเชือกกั้น
- สมาคมผู้สื่อข่าวตปท. แถลงการณ์ตอบโต้ CNN กรณีบุกศูนย์เด็กเล็ก รายงานเหตุกราดยิง
- นายก อบต.อุทัยสวรรค์แจ้งความนักข่าวซีเอ็นเอ็น บุกรุกปีนรั้วเขตหวงห้ามศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นให้ตำรวจไปนำตัว 2 นักข่าวมายัง สภ.นากลางแล้ว คือ น.ส.อันนา มาร์เกอรีต โคเรน อายุ 47 ปี ชาวออสเตรเลีย และนายแดเนียล จอห์น ฮอด์จ อายุ 34 ปี สัญชาติบริติช หลังพบว่าพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายใน จ.อุดรธานี โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเข้าไปสอบถามเจ้าตัวว่ามีใครอนุญาตให้เข้าไปภายในสถานที่ศูนย์เด็กพัฒนาเด็กเล็กฯหรือไม่ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว อำนาจหน้าที่อนุญาตจะต้องเป็นของทางตำรวจเท่านั้น แต่ต้องสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดก่อน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจ ตม.ได้เพิกถอนวีซ่าแล้ว หากพบว่าเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที เบื้องต้นมี 2 ข้อหาที่เกี่ยวข้อง คือ บุกรุกสถานที่ราชการและการเข้าไปในสถานที่มีวัตถุพยานหลักฐาน
หลังจากนั้นหากมีการดำเนินคดีทางอาญาจนศาลตัดสินแล้วเสร็จ และหากต้องจำคุก จะต้องเข้าสู่กระบวนการของประเทศไทยก่อน หากเสร็จสิ้นแล้วเมื่อออกมา จะผลักดันออกจากนอกประเทศและขึ้นแบล๊กลิสต์ไว้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ได้ความจริงอันเป็นที่ประจักษ์ จากการตรวจสอบ หลังจากได้ส่งชุดสืบสวนเข้าไปตรวจค้นในพื้นที่พบว่า คือ
1. น.ส.อันนา มาร์เกอรีต โคเรน (Ms.Anna Marguerite Coren) อายุ 47 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เป็นผู้รายงานข่าว
2. นายแดเนียล จอห์น ฮอด์จ (Mr.Daniel John Hodge) อายุ 34 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นช่างภาพ
สองนักข่าวดังกล่าวได้พักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จว.อุดรธานี จึงได้ขอเชิญตัวเข้ามาสอบสวนปากคำยัง ภ.จว.หนองบัวลำภู
จากการสืบสวนเบื้องต้นได้ความว่า สองนักข่าวดังกล่าวได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 25 65 โดยเดินทางจากฮ่องกงมายังประเทศไทย โดยใช้วีซ่า ผผ.30 (ประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว) โดยน.ส.อันนา ใช้หนังสือเดินทางประเทศออสเตรเลีย และนายแดเนียล ใช้หนังสือเดินทางประเทศอังกฤษ ซึ่งโดยปกติเมื่อเข้ามาแล้วต้องเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถมาทำงานได้ แต่ทั้งสองกลับเข้ามาถ่ายทำข่าวยังพื้นที่เกิดเหตุหลายวันอย่างต่อเนื่องและเผยแพร่ภาพข่าวไปทั้วโลก ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 มีอัตราโทษปรับ 5,000-10,000 บาท
ด้วยเหตุดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองทำการเพิกถอนวีซ่า หรือการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยไว้ก่อน และทำการควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวนต่อไป
ส่วนประเด็นการบุกรุกในสถานที่ราชการ จากการสอบสวนเบื้องต้นได้ความว่า ทั้งสองนักข่าวยืนยันว่า ได้เข้าไปในศูนย์เด็กเล็กในขณะที่ประตูเปิดอยู่และไม่มีเชือกกั้นที่เกิดเหตุแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสม. อยู่ด้านในเกือบ 10 คน และสองนักข่าวให้การอีกว่า ได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่แล้ว ว่าสามารถเข้าไปด้านในได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าให้เข้ามาได้ ในส่วนนี้จะได้ทำการสอบสวนพยานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะดูภาพบันทึกจากสื่อมวลชนในที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ผบ.ตร.จะแถลงข่าว ในเวลา 19.00 น.
