คลับวัน พัทยา อ่วม ตำรวจชงปิดร้าน 5 ปี บี้หา ‘เจ้าของ-หุ้นส่วน’ ตัวจริง เอี่ยวฟอกเงิน ยาเสพติด

‘บิ๊กหลวง’ ลุยพัทยา คดีคลับวัน ฟันยา-ฟอกเงิน ตำรวจเตรียมเสนอปิด 5 ปี ดำเนินคดีกับ ‘เจ้าของ-หุ้นส่วน’ ตัวจริง

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป.3) ได้เดินทางมาติดตามการดำเนินการจับกุม สถานประกอบการ ร้านคลับวัน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมดังนี้ พล.ต.ต.สุจริต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.เมืองพัทยา

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า ได้มีข้อกำชับคือ 1.กำชับการปฏิบัติตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 2.ให้สืบสวนสอบสวนขยายผลเส้นทางการเงินและความเชื่อมโยงไปยังบุคคลที่เป็นเจ้าของสถานประกอบการตัวจริง 3.ให้ พฐ.เก็บของกลางยาเสพติดที่พบในสถานประกอบการ เพื่อตรวจหาลายนิ้วมือแฝง 4.บุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่มีการกระทำความผิด ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายเรียกมาดำเนินการต่อไป

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า 5.ให้สอบสวนว่ามีมูลฐานที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือไม่ อย่างไร 6.ตรวจสอบการก่อสร้างและผังอาคารของสถานประกอบการว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารหรือไม่ อย่างไร 7.ให้สอบถามสำนักงานพาณิชย์จังหวัดว่าจดทะเบียนพาณิชย์ หรือมีกรรมการเป็นชื่อใครบ้าง 8.กำชับสถานประกอบการในพื้นที่ต้องไม่มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ต้องตรวจเข้มการนำอาวุธเข้าสถานประกอบการ และอายุของบุคคลที่เข้าใช้บริการ และ 9.กำชับให้ ผกก.ตรวจสอบอาวุธปืนในคลังของสถานีตำรวจว่าอยู่ครบหรือไม่ อย่างไร

Advertisement

พล.ต.ท.ภานุรัตน์กล่าวต่อว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีมีชายแสดงพฤติกรรมเอะอะโวยวายเจ้าหน้าที่ ทำให้สะเทือนถึงความเชื่อมั่นของผู้บังคับใช้กฎหมาย ทำให้ ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.มีการกำชับสั่งการให้มีการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย เบื้องต้น พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ดำเนินคดีกับ นายมนู ยิ้มอยู่ อายุ 37 ปี ผู้ดูแลผับดังกล่าว ในข้อหากระทำความผิด พ.ร.บ.สถานบันเทิง และ พ.ร.บ.จำหน่ายสุรา แต่เมื่อจากดูคลิปในวันเกิดเหตุอย่างละเอียดอาจต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม อีกทั้งเตรียมประสานเมืองพัทยาเข้าตรวจสอบเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคารว่ามีการขออนุญาตใช้อาคารที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ เตรียมสอบสวนเจ้าของผับตัวจริง ซึ่งจากแนวทางการสอบสวนทราบว่าคือ “กู๋เอี๋ยว” ที่มีประวัติเกี่ยวข้องคดีฟอกเงินและยาเสพติด รวมถึงหุ้นส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ ผกก.สภ.เมืองพัทยา รวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมด และเร่งทำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีสั่งปิดสถานบันเทิงดังกล่าว 5 ปี ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ส่วนยาเสพติดจำนวนมากที่ตกอยู่ในผับ ให้ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของ ส่วนกรณีชายที่ปรากฏในคลิปพูดพาดพิงถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้เป็นเรื่องของผู้ถูกพาดพิง ใครที่เสียหายก็ต้องไปดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย

ส่วนประเด็นสุดท้ายที่มีกระแสดราม่าเรื่องนักเที่ยวกว่า 200 คน ไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะ พากันแตกฮือออกจากผับ เรื่องนี้มีการดูคลิปหลายรอบ พบว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คนพยายามปลุกปั่นให้นักเที่ยวลุกฮือหนีออกจากผับ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ประเด็นนี้ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับชายทั้ง 3 คนที่ปรากฏในคลิปในข้อกล่าวหา “ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่”

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image