รวบ ‘อาหยง’ นายทุนแดนมังกร หัวโจกเครือข่ายตุ๋นคนไทยเป็น สแกมเมอร์ ที่เมียวดี

รวบ “อาหยง” นายทุนแดนมังกร
หัวโจกเครือข่ายตุ๋นคนไทยเป็น Scammer ที่เมียวดี
หลังเหยื่อแฉถูกโกนหัว-ไฟฟ้าชอร์ต

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.9 บก.รน. รรท.ผกก.4 บก.ปคม. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง สว.ฯ, พ.ต.ต.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.ฯ, ร.ต.อ.สกาย จินดาธรรม รอง สว.ฯ, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.4 บก. ปคม. ร่วมกันจับกุม นายหวง เทียนหยง หรือ อาหยง อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1112/2564 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 กระทำความผิดฐาน 1. สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ 2. ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกองค์กรอาชญากรรมกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานฯ ได้ที่บริเวณลานจอดรถย่านถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2564 เครือข่ายขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่ประกอบด้วยคนจีน ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า รวม 19 คนได้สมคบและร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการค้ามนุษย์ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ มีพฤติการณ์คือการหลอกลวงคนไทยไปทำงานด้วยวิธีการ ลงโฆษณาในอินเตอร์เน็ตหลอกว่ามีการจัดหาคนไปทำงานที่ชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อและเดินทางไปที่จุดนัดพบ กลับถูกบังคับพาข้ามไปทำงานที่ฝั่งเมียวดี  ประเทศเมียนมา โดยจะใช้วิธีเดินเท้าผ่านป่าไปข้ามแม่น้ำเมย เมื่อไปถึงจะถูกพาไปที่บริษัท JinXin Holdings จำกัด เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา

หลังจากนั้นผู้เสียหายจะถูกเครือข่ายผู้ต้องหาบังคับใช้แรงงานให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ (Scammer) (การหลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์จากผู้อื่นทางอินเตอร์เน็ต) โดยจะให้พูดหลอกลวงลูกค้าให้มาลงทุนทำธุรกิจเงินดิจิทัล (บิตคอยน์) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไทยได้จำนวน 7 คน เป็นผู้หญิง 5 คน ผู้ชาย 2 คน

Advertisement

จากการสอบปากคำผู้เสียหายให้การว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะทำการสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมาในแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Tinder, Badoo, Blumboo, Jaumo Dating ฯลฯ แล้วให้กลุ่มผู้เสียหายใช้พูดคุยหลอกถามข้อมูลบุคคล และชักชวนคนมาลงทุน

เมื่อมีคนสนใจทักกลับมาจะส่งต่อให้หัวหน้าทีมซึ่งเป็นชาวมาเลเซียและฟิลิปปินส์เป็นคนดำเนินการต่อ กลุ่มผู้เสียหายจะถูกบังคับให้ทำงานวันละ 12 ชม. ไม่มีวันหยุด ต้องทำยอดให้ได้ตามที่กำหนด หากว่าใครไม่ยอมทำงานหรือทำงานไม่ได้ตามยอดที่กำหนดจะถูกลงโทษโดยส่งไปขังที่ “ห้องดำ” หรือถูกทำร้ายร่างกายโดยการโกนผมและใช้ไฟฟ้าชอร์ตทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถขัดขืนได้

ถ้าผู้เสียหายคนใดต้องการกลับมาประเทศจะต้องนำเงินมาจ่ายเป็นค่าไถ่ตัวจำนวน 50,000 บาท ถึงจะได้รับการปล่อยตัว กลุ่มผู้เสียหายบางรายได้ติดต่อญาติให้เอารถไปจำนำ บางรายมีการกู้เงินนอกระบบแล้วโอนเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหา จึงได้รับการปล่อยตัวออกมา

Advertisement

จนกระทั่งผู้เสียหายทั้ง 7 คนได้เดินทางข้ามพรมแดนกลับมายังประเทศไทยด้าน อ.แม่สอด แล้วถูกจับกุมตัวตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ โดยระหว่างถูกกักตัว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ สอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 7 คนที่ถูกหลอกไปทำงานให้กับกลุ่มผู้ต้องหา จนพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ เป็นเครือข่ายกระบวนการกระทำผิดระหว่างคนไทย จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาตามกฎหมาย จนนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด 19 หมาย โดยเป็นคนจีน 3 ราย คนมาเลเซีย 1 ราย คนฟิลิปปินส์ 1 ราย คนพม่า 3 ราย คนไทย 11 ราย โดยมีนายอาหยงและเพื่อนชาวจีน เป็นหัวหน้าและนายทุน ซึ่งมีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาไปแล้วจำนวน 7 ราย

​จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทราบว่านายอาหยง เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อมาทำธุรกิจฟอกเงิน โดยมีการเปิดค่ายมวยชื่ออาหยงยิมส์ และเป็นโปรโมเตอร์ในการจัดต่อยมวยตามเวทีต่างๆ ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางไปบริเวณลานจอดรถย่านถนนรามอินทรา ในวันที่ 29 ต.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคม. จึงเดินทางไปตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ และนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคม.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ​

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image