หมายจับ”พระธัมมชโย”คดีสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ “บิ๊กตร.”แจงยังไม่บุกจับ

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดสีคิ้ว อนุมัติหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามคำร้องขอของ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ ขนาดนิด ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.) ในฐานความผิดร่วมกันสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี กรณีก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ โดยหมายจับดังกล่าวระบุว่าให้จับตัวพระธัมมชโย ไปส่งที่ปทส. ภายในอายุความ 15 ปีนั้น ว่า หมายจับล่าสุดเป็นหมายจับของตำรวจหากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัว สามารถดำเนินคดีแจ้งข้อหาได้ทันที เป็นมาตรการต่อผู้ต้องหาตามปกติ ส่วนกรณีที่มีผู้เกรงว่าอาจมีมวลชนขัดขวางการดำเนินการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ยืนยันว่าไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด หากพบว่ามีผู้ใดขัดขวางการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทางตำรวจจะบันทึกหลักฐานประกอบทุกขั้นตอนหากพบว่าผู้ใดกระทำผิดกฎหมาย เมื่อครั้งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินคดีผู้กระทำผิดฐานขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปแล้วหลายราย

รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า การจับกุมเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ใครออกหมายมีหน้าที่สืบสวนและจับกุม มั่นใจว่าพระธัมมชโยไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด ไม่ต้องสั่งการให้จับกุมเป็นพิเศษ เมื่อมีหมายจับ หากพบตัวเจ้าหน้าที่ก็ต้องจับกุม เชื่อว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่เจ้าหน้าที่จะต้องใช้กำลังบุกจับกุมภายในวัด เนื่องจากอายุความมีระยะเวลาถึง 15 ปี เชื่อว่าถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่อยากดำเนินการใด ๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาบ้านเมืองขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ อีกทั้งคดีดังกล่าวเป็นความผิดฐานบุกรุกป่า ไม่ใช่ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย จะต้องใช้กำลังเข้าไปเอาตัวมาลงโดยทันที

พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ประสานไปยังพระธัมมชโยเพื่อเจรจาในเข้ามอบตัว ซึ่งคดีในลักษณะนี้วงเงินประกันตัวอาจจะอยู่ที่วงเงิน 100,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ก็ยินดีจะพิจาณาเกี่ยวกับเรื่องการอนุญาตให้ประกับตัว หากพบว่าผู้ต้องหาไม่เข้าข่ายมีพฤติกรรมทำลายหลักฐาน หรือหลบหนี หากไม่มีพฤติการณ์ที่ว่ามาก็ยินดีจะให้ประกันตัวได้ ส่วนจะต้องสึกจากพระหรือไม่หากรับข้อกล่าวหา ตรงนี้อยู่ที่มติของสงฆ์ ว่าขัดต่อมติมหาเถระสมาคมหรือไม่ ขณะเดียวกันหากผู้ต้องหาระบุว่ามีความเจ็บป่วยไม่สามารถออกมาจากวัดเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ได้ ทางตำรวจเองก็ยินดีเข้าไปพบเพื่อไปแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวตามเหมาะสมต่อไป มั่นใจว่าคงไม่มีมวลชนขัดขวาง เนื่องจากทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช้ผู้ออกหมายเอง ศาลเป็นผู้อนุมัติหมายจับตามพยานและหลักฐานที่พบ และหากยังมีผู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดทุกรายต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เร่งรีบบุกเข้าจับกุมพระธัมมชโยนั้น เป็นการประวิงเวลาหรือไม่ พล.ต.อ. ศรีวราห์ กล่าวว่า ไม่ใช่การประวิงเวลาอย่างแน่นอน เพราะคดีดังกล่าวหมายจับออกแล้ว พื้นที่เกิดเหตุก็ถูกยึดแล้ว เพียงแต่เจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนอย่างรอบคอบและดีที่สุดเพื่อไม่ให้พุทธศาสนาเสียหายเท่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่พระธัมมชโย พระทุกรูปเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนดำเนินการใดๆเช่นกัน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเพียงผู้ช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ในการดำเนินการเข้าจับกุมเท่านั้น จึงทำได้เฉพาะที่ได้รับการร้องขอ แต่ครั้งนี้เป็นหมายจับของตำรวจ กระบวนการยุติธรรมทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดูแล คิดว่าคงไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาตนเคยจับกุมพระธัมมชโย มาแล้วสมัยยังทำงานอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ครั้งนั้นเมื่อจับกุมก็ไม่ต้องสึก ยังเป็นพระต่อ ส่วนครั้งนี้หากมามอบตัวก็อยู่ที่การพิจารณาของสงฆ์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image