‘บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่อ’ ลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องบินเครือข่าย ‘ตู้ห่าว’
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ความคืบหน้าจากการตรวจยึดเครื่องบินของ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ “ตู้ห่าว” จอดอยู่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจยึดเครื่องบินตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อมาตรวจสอบ หลังพบหลักฐานในเอกสารปรากฏชื่อ “ตู้ห่าว” เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเเละเครื่องบินซื้อขายในนามชื่อบริษัทดังกล่าว รวมทั้งจากการปฏิบัติการทั้ง 34 จุดวันนี้ ทางชุดสืบสวนตรวจยึดบ้านหรูใน จ.สมุทรปราการ อีกทั้งตรวจยึดพยานหลักฐาน เอกสาร และรายการทรัพย์สินอื่นๆ ที่ปรากฏชื่อนายตู้ห่าว และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องด้วย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าเครื่องบินลำนี้มีชื่อบริษัทแห่งหนึ่งเป็นเจ้าของมีความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ทำให้เครื่องบินลำเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว เมื่อเชื่อมโยงแล้วทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ เพื่อหาความเกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ส่วนของการตรวจยึดทางเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ออกหนังสือคำสั่งยึดไว้ก่อนหน้านี้โดยใช้อำนาจ ป.ป.ส. ทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในความควบคุมดูแลของ ป.ป.ส. โดยทางเลขาธิการ ป.ป.ส.มอบหมายให้ผู้ตรวจการตรวจสอบทรัพย์สินมาร่วมด้วย ซึ่งตำรวจร่วมกับทาง ป.ป.ส. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาตรวจสอบหาหลักฐาน กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจหาดีเอ็นเอ การใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อหายาเสพติด ซึ่งจะตรวจสอบให้ได้ข้อมูลว่าใครนั่งเครื่องบินลำนี้บ้าง เรื่องการสืบสวนทาง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ดำเนินการไปไกลแล้ว ตรวจสอบและนำผลตรวจซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบในสำนวนเพื่อให้ได้ความถูกต้องรัดกุม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการสืบสวนเมื่อวันที่ 29 พ.ย. จับกุมนานโทนี่ ยิป เจ้าของสเปซ พลัส คลับ ตอนนี้จับกุม 4 นายทุนจีนสีเทา เหลือเพียงนายหมิง ที่หลบหนีไปก่อนหน้า ซึ่งประสานทำเรื่องหมายจับสากลต่อไป การตรวจค้น 34 จุด สิ่งที่ได้มาคือการตรวจค้นเครือข่ายนอมินี ยึดทรัพย์นายตู้ห่าว และทรัพย์สินอื่นๆ โดยรายของนายตู้ห่าว พบทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งบ้านอีก 3 หลังในหมู่บ้านเดียวกัน และตรวจค้นบริษัท โมเดิร์น เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ พบรถกว่า 100 คัน โดยเฉพาะวันนี้ยึดทรัพย์กว่า 4 พันล้าน และรวมก่อนหน้าตรวจยึดทำให้ตอนนี้ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 5 พันล้าน และจะรายงานเรื่องทรัพย์สินไปยัง ป.ป.ส. และ ปปง.ต่อไป
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า ส่วนของการตรวจยึดเครื่องบินนายตู้ห่าว เพื่อตรวจสอบ เบื้องต้นให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บดีเอ็นเอ พร้อมนำสุนัขตำรวจเข้าร่วมภารกิจตรวจสอบยาเสพติดด้วยและการที่ตำรวจกวดขันกวาดล้างทุนจีน หากถามตำรวจพอใจหรือไม่ ในส่วนนี้ตอบไม่ได้ ต้องถามพี่น้องประชาชนดีกว่าว่าพอใจหรือไม่ เพราะสิ่งที่ทำวันนี้ทำเพื่อเซตซีโร จริงๆ เพราะธุรกิจสีเทาเรามองว่าเหมือนภูเขาน้ำแข็ง มองยอดเขาแต่ใต้น้ำไปพัวพันหลายอย่าง พอเมื่อขุดจะเห็นว่าอาชญากรรมทิ้งร่องรอยไว้ทั้งหมด ซึ่งพูดคุยกับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่าทำตามพยานหลักฐาน ไม่ทำตามกระแสโซเชียล ถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ไม่ถึงเราก็คืนความยุติธรรมให้กับเขา นี่คือสิ่งที่ทาง ผบ.ตร.และทีมงานทุกคนเน้น ถ้าเกิดเชื่อมโยงถึงกันก็ต้องรับสภาพทั้งนอมินีต้องขอเตือนเลย และคนที่คิดจะเป็นนอมินีว่า เป็นความผิดมีโทษจับจำคุก ในการถือทรัพย์สินแทนเขา
ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่ทุกอย่างมีขั้นตอน รวบรวมพยานหลักฐาน ในการไปขอหมายศาลถ้าพยานหลักฐานไม่ชัดศาลก็ไม่ให้ ต้องสืบมาก่อน ทำรายงานชี้แจงต่อศาล จนมีเหตุให้ควรสงสัยศาลถึงให้หมายมา ใช่ว่าขอวันนี้จะได้เลย ยืนยันว่าจะทำต่อเนื่องไม่ได้หยุด ส่วนที่หลายฝ่ายบอกว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ส่วนตัวยืนยันว่าการเมืองมาครอบงำการทำงานไม่ได้ ถ้าหากเป็นเรื่องการเมืองเกี่ยวข้องถึงใครก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ ไม่มีมวยล้มแน่นอน ที่ผ่านมาไม่เคยที่จะมีสายสืบสวนและสายปราบปรามทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้งตนและรองโจ๊กนี่คือครั้งแรกและเป็นสิ่งที่ต้องการให้พี่น้องประชาชนปรับมายด์เซตที่มีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
