ภาค9 ยังไม่แจ้งความขบวนการทุจริตสอบนายสิบ อ้างขอตรวจพยาน หลักฐานเส้นทางการเงินให้ชัดเจน

แฟ้มภาพ ใช้ประกอบข่าวเท่านั้น

ภาค 9 ยังไม่แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตสอบนายสิบ อ้างขอตรวจพยาน หลักฐานเส้นทางการเงินให้ชัดเจน พบเส้นทางการเงินผ่านบัญชีข้าราชการหญิงที่ตรังเอี่ยวด้วย หวังสาวถึงผู้บงการใหญ่

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ ขบวนการทุจริตข้อสอบในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ ของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 (ศฝร.ภ.9) ว่ายังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะคณะกรรมการที่มี พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภ.9 ทำหน้าที่เป็นประธานสอบ ต้องการให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุด เพื่อให้ผู้ร่วมทำความผิดดิ้นไม่หลุด ต้องการเชื่อมโยงไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะมากกว่าที่อยู่ในข่ายของการทำผิดที่มีอยู่

พล.ต.ท.นันทเดชกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่ ที่ต้องทำด้วยความรอบคอบ ตั้งแต่มีการจับผู้สมัครคนแรกคือนายจิรภัทร์ จันทร์เทพ ในห้องสอบที่สนามสอบแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 27 มี.ค. พร้อมหลักฐานคือ กระดาษเฉลยข้อสอบ และส่งดำเนินคดี มี พ.ต.ท.อเสก สีเขียวแก้ว พงส. สภ.เมือง สงขลา เป็นเจ้าของคดี มีการสืบสวนสอบสวนหาผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตทันที เพื่อความรอบคอบรัดกุม และได้ตัวทั้งผู้ขายข้อสอบ และซื้อข้อสอบในการสอบครั้งนี้

“ได้นำนักเรียน 30 คน ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยมาให้ทำข้อสอบใหม่ ที่เป็นข้อสอบเดิม แต่ทำข้อสอบไม่ได้ และหลังจากนั้นกองบัญชาการตำรวจ ภาค 9 ได้ร่วมมือกับ ‘ส่วนกลาง’ ทำการ สืบสวนสอบสวน จากเบาะแสผู้ที่จับกุมได้เป็นคนแรก จนรู้ถึงผู้ร่วมขบวนการ สถานที่นัดพบ รายชื่อการโอนเงินผู้เข้าสอบ เข้าบัญชีของใครบ้าง ขอให้เชื่อว่า ไม่มีการช่วยเหลือใคร และมีเป็นมวยล้มต้มคนดู แต่ที่ล่าช้าต้องการสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”

รายงานข่าวจาก ”ศูนย์ฝึกอบรมฯ” ที่เป็นเจ้าทุกข์ เพราะเป็นผู้เสียหายโดยตรงแจ้งว่า สาเหตุที่ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ศูนย์ฝึกอบรมฯ ยังไม่สามารถเข้าแจ้งความได้ เนื่องจากมีคำสั่งจาก พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผช.ผบ.ตร. ซึ่งได้รับคำสั่งจาก ผบ.ตร. ให้เข้าควบคุมคดีนี้ ได้สั่งการให้สอบผู้เสียหายและพยานเพิ่ม หลักฐานที่เป็นเส้นทางการโอนเงิน ในกลุ่มของผู้ที่อยู่ในขบวนการทุจริตทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่ามีมากกว่านี้

Advertisement

“ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ตามกฎหมายผู้ที่ ‘จ่ายเงิน’ คือผู้เข้าสอบ 118 ราย ที่ถูกจำหน่ายจากสารบบการเป็นนักเรียนนายสิบแล้ว ต้องเป็นผู้ต้องหาในการทุจริตด้วย การติดตามตัวการสอบสวนสืบสวนจึงต้องใช้เวลามากขึ้น และต้องมีการกันบุคคลบางกลุ่มเพื่อเป็นพยานบุคคลในคดีด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่าย มีการสืบสวนสอบสวนมาแล้วหลายเดือน จนเป็นข่าวฉาวเกิดขึ้น ทำให้ ผู้ใหญ่ระดับสูงในส่วนกลางให้ความสำคัญ และสั่งให้มีการสอบเพิ่มในหลายประเด็น และหลายคน”

สำหรับเส้นทางการเงินที่เป็นเงินที่มาจากการขายข้อสอบจาก 2 บัญชี ที่ตรวจพบและเชื่อมโยงกันเกือบ 50 ล้านบาท อยู่ในบัญชีของ น.ส.รุ่งทิพย์ ข้าราชการหน่วยงานหนึ่งใน จ.ตรัง ที่โอนเข้าบัญชีของ ร.ต.อ.หญิง ลภันรดา ที่มีความเกี่ยวพันเป็นน้องสาว และมีการโอนเงินระหว่าง น.ส.รุ่งทิพย์ กับ สามีคือนายณิชธรรมรงค์ และสอบสวนพบว่า นายณิชธรรมรงค์ มีอาชีพเป็น ติวเตอร์ ที่เป็นสถาบันติวเตอร์ชื่อดังใน จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนในการทุจริตหรือไม่

นอกจากนี้ ยังพบว่า หลักฐานและธุรกรรมการเงินยังสาวไปถึง นายวุฒิภัทร สามีของ ร.ต.อ.หญิง ลภัสรดาด้วย และจากการหาหลักฐานทางการเงิน พบว่าบัญชีของ น.ส.รุ่งทิพย์ มีการปิดบัญชีกับธนาคาร ก่อนการสอบในวันที่ 27 มี.ค.65 เพียง 10 วัน และ ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีใคร

Advertisement

รายงานว่าชุดสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ที่น่าสงสัยคือ รายชื่อของผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่เป็นผู้ต้องหาทั้งหมด เป็นคนในพื้นที่ จ.สงขลา เกือบทั้งหมด และสถานที่มีการจับผู้ทุจริตในการสอบก็อยู่ในพื้นที่ของ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นขบวนการใหญ่ ที่เกี่ยวข้องกับการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบทุกครั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image