เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษหัวหน้าคณะทำงานกรณีดำเนินคดีพระธัมมชโย ฐานฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร กล่าวถึงเรื่องการได้ตัวพระธัมมชโยกับพวกที่หลบหนี มาเข้ากระบวนการกฎหมาย ว่า ทางคณะทำงานอัยการมีการประสานงานในเรื่องนี้กับทางพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)อยู่ตลอดเวลา แต่รายละเอียดในส่วนนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางพนักงานสอบสวนทั้งทางของดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับทางวัดพระธรรมกายเพื่อขอให้พระธัมมชโย เข้ามอบตัวนั้น หากมีการเข้ามอบตัวแล้วจะได้ประกันตัวหรือไม่ เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะมีอำนาจพิจารณาในเรื่องนี้ ส่วนถ้าได้ตัวมาแล้วมีการสอบปากคำและส่งสำนวนให้อัยการ ถึงตอนนั้นอัยการจะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพระธัมมชโยมีการเข้ามอบตัวและพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่ นายชาติพงษ์ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้น อัยการจะเป็นผู้พิจารณาคำให้การของพระธัมมชโยรวมถึงพฤติการณ์ และความหนักเบาของคดี ก่อนจะมีคำสั่งว่าให้ประกันหรือไม่ เมื่อถามว่าหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคดีพระธัมมชโยจะต้องส่งฟ้องพร้อมกับจำเลยที่ได้ตัวมาในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้และหากส่งตัวฟ้องเเล้วจะคัดค้านการประกันต่อศาลหรือไม่
รองอธิบดีอัยการ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้จะต้องพิจารณาคำให้การและพยานหลักฐานของพระธัมมชโยก่อนว่าเป็นอย่างไร มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ จึงยังไม่สามารถบอกได้ เพราะขณะนี้ที่เรามีความเห็นสมควรสั่งฟ้องพระธัมมชโยกับพวกที่หลบหนีนั้น เรารับฟังแต่พยานหลักฐานจากดีเอสไอเพียงฝ่ายเดียว จึงต้องพิจารณาคำให้การของผู้ต้องหาควบคู่ไปด้วยก่อนจะมีคำสั่ง ส่วนเรื่องการค้านประกันตัวต่อศาลหรือไม่จะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบเช่นกัน
