ชูวิทย์ แฉวงจรปิด หญิงถือถุงขึ้นโรงพัก ยัด 6 แสนไถ่รถปอร์เช่ ของกลางคดีจีนสีเทา  

ชูวิทย์ แฉวงจรปิด หญิงถือถุงขึ้นโรงพัก ยัด 6 แสนไถ่รถปอร์เช่ ของกลางคดีจีนสีเทา ระบุชื่อชัดลูกน้อง ผบช.น. รับเงินนี้   

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเผยเรื่องใหญ่ ภาพวงจรปิดหญิงสาวถือถุงขึ้นโรงพัก โดยนายชูวิทย์ระบุว่า ในถุงมีเงิน 6 แสนบาทนำมาไถ่รถปอร์เช่ของกลางในคดีที่ผับจินหลิง มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้

“มีเรื่องให้แฉข้ามปีใหม่อีกเยอะ

ตั้งแต่เกิดเหตุ ‘จินหลิง’ 26 ตุลาคม นับถึงวันนี้ 30 ธันวาคม

เป็นระยะเวลา 2 เดือนกว่า ที่ ผบช.น. ปล่อยปละละเลยในการตั้งข้อหา ‘รองหมา’ ที่เป็นผู้ปล่อยรถของกลางในคดี ออกไปอย่างชิลๆ

Advertisement

ในรูปจะเห็นผู้หญิงที่นำถุงเงิน 600,000 บาท มาให้รองหมาถึง สน.ยานนาวา ที่รองหมา มารักษาการผู้กำกับฯ เพื่อขอไถ่รถปอร์เช่ของกลางในคดีที่คนจีนถูกยึดจากที่จินหลิง

พวกจีนเทาให้ผู้หญิงจีนหิ้วถุงเงินมาให้ ดูวันที่ในภาพระบุ 28 ตุลาคม หลังเกิดเหตุ ‘จินหลิง’ เพียง 2 วัน และใบมอบอำนาจหลอกๆ ระบุวันที่ 28 ตุลาคม เช่นกัน

มีลายเซ็นรองหมา ‘อนุญาตให้คืนรถได้’

Advertisement

โดยมีตำรวจลูกน้องรองหมาลงมารับผู้หญิงหิ้วถุงเงิน พาขึ้นไปที่ห้องทำงานรองหมา

แล้วผู้หญิงสัญชาติจีนเครือข่ายจีนเทา ก็ยังถ่ายรูปโต๊ะทำงานรองหมากับถุงเงิน เป็นหลักฐานส่งภาพกลับไปให้เจ้าของรถปอร์เช่ สัญชาติจีน-กัมพูชา ว่าได้นำเงินมาให้รองหมาเรียบร้อยแล้ว

ทำกันได้ลงคอถึงเพียงนี้

ระยะเวลาผ่านไป 2 เดือน ผบช.น. ‘บิ๊กจ้าว’ ไม่ทำอะไร เพราะรองหมาเป็นลูกน้องคนสนิทตัวเองที่ส่งไปรักษาการตำแหน่ง ‘ยานนาวา’ ท้องที่เกิดเหตุ หลังเกิดเรื่องจินหลิง

แบบนี้เรียกว่า ‘ยื่นหมู ยื่นแมว’ รองหมาลูกน้องท่าน ผบช.น. เก่งจริงๆ เรื่องพรรค์นี้ไม่รู้ว่าต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ใครข้างบนอีกไหม?

ชุดสืบรายงานให้ ผบช.น. ไปตั้งแต่ 2 เดือนก่อนแล้ว แต่ท่าน ผบช.น. นิ่งเงียบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะอะไร ย่อมรู้อยู่แก่ใจ

แต่พอเมื่อวานผมเคาะสะกิดต่อม ท่าน ผบช.น. ที่ ป.ป.ส. หน้าสื่อเจี๊ยวจ๊าว

ปรากฏว่า วันนี้วันหยุดยาว ท่านก็รีบแอบย่องไปแจ้งข้อหา ม.149 และ ม.157 กับรองหมา หลังจากไม่ได้ทำอะไรมากว่า 2 เดือน

เพื่อจะได้ไม่เป็นข่าว ช่วยกันปกปิดกลบเกลื่อน ช่วยเหลือ ‘รองหมาผู้ต้องหา’ ทุกอย่าง

ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ เสธ.เก๋ คนสนิทของท่านต้องรายงานแล้วว่า

‘ผบช.น. คนนี้ เข็นไม่ไหวแล้วครับท่าน’

อย่าได้หวังคะแนนเสียงคนกรุงเทพฯ คงหล่นลงเหว เพราะท่าน ‘เอาหูไปนา เอาตาไปไร่’

ส่วนที่ ผบ.ตร. ตั้งคณะลิเกมาสอบสวนภาพบ่อน “จินหลิง” ที่ผมโพสต์ไปเมื่อวาน

คงสนองนโยบาย “ต้องไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ” ที่ตัวท่านเองประกาศไว้

หาก ผบ.ตร. เอาจริง ป่านนี้ตำรวจคงหายไปครึ่งหนึ่งของกรุงเทพฯ แล้วล่ะครับท่าน

ยังมีเรื่องให้ผมแฉข้ามปีใหม่อีกเยอะ

ยกเว้นจะย้าย ผบช.น. คนนี้ออกจากพื้นที่

ขืนให้อยู่คุมนครบาลต่อไป พี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ ฝากความหวังไว้ไม่ได้ครับ

มีเรื่องให้ผมแฉทุกวัน จนทั้ง ผบ.ตร. และ ผบช.น. เก้าอี้ร้อน นั่งไม่ติด

แล้วต้องมีใครสักคนลุกไปนั่งเก้าอี้โยกที่บ้านแทน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image