วันนี้ ‘ปปป.’ สอบพยานอีก 10 รายคดีอธิบดีอุทยานเรียกรับเงิน-ทส.ตั้งสอบวินัยร้ายแรง

วันนี้ ‘ปปป.’ สอบพยานอีก 10 รายคดีอธิบดีอุทยานเรียกรับเงิน-ทส.ตั้งสอบวินัยร้ายแรง

เมื่อวันที่ 6 มกราคม กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป) สอบพยานอีกกว่า 10 รายคดีที่กล่าวหา นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด หลังบุกห้องทำงานพบเงินในซองรวมกว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 มกราคม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาสอบพยานปากสำคัญไปแล้ว 2 ราย คือนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ คำให้การของพยานทั้งสองค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ส่วนบุคคลที่มีรายชื่อบนซองเงินของกลาง หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำในฐานะพยานนั้น เบื้องต้นมีการประสานติดต่อจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 6 มกราคมแล้วกว่า 10 ราย

นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯเรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการในสังกัดแถลงผลการตรวจสอบ ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีมูลความผิดทางวินัยในการเรียกรับเงินจริง โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวยวินัยร้ายแรงนายรัชฎาแล้ว ทั้งนี้ โทษวินัยก็มีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ จนถึงไล่ออก

เมื่อถามว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องที่เหนือกว่านายรัชฎาหรือไม่ นายกุศลกล่าวว่า ไม่ทราบ จะทราบก็ต่อเมื่อมีการดำเนินคดีทางอาญา เมื่อถึงวันนั้นคงจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้อง เมื่อถามว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ที่จะพบเงินหลักล้านในห้องอธิบดี นายกุศลกล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพบเงินจำนวนมากในห้องอธิบดี เพราะสมัยนี้คนส่วนใหญ่ใช้เครดิตการ์ดแทนเงินสดกัน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ลงนามแต่งตั้ง นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัด ทส. เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายรัชฎา

รายงานข่าวแจ้งว่า คำสั่งของนายจตุพร บุรษพัฒน์ ปลัด ทส.  เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงนายรัชฎา มีใจความสรุปว่า ด้วยนายรัชฎา มีกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ได้เข้าจับกุมนายรัชฎา และแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต

รายข่าวแจ้งว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบพยานแวดล้อมแล้วน่าเชื่อว่านายรัชฎาได้เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ในสังกัดกรมอุทยานฯจริง ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์เพื่อแลกกับการไม่สั่งโยกย้ายผู้ถูกเรียกให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นหรือไม่ประการใด นอกจากนี้นายรัชฎา เป็นผู้บริหารระดับสูงย่อมได้รับการยกย่องนับถือจากบุคคลทั่วไปว่า เป็นผู้ที่มีเกียรติศักดิ์และศักดิ์ศรี และได้รับการยกย่องจากสังคม แต่กลับมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้อื่นและถูกจับกุมตัวจนเป็นข่าวแพร่หลายในสังคม จนอาจเป็นเหตุให้ประชาชนเสื่อมความเชื่อถือศรัทธา มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ชื่อเสียงและประสิทธิภาพของราชการ รวมถึงก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติและภาพพจน์ของข้าราชการ

Advertisement

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image