ลุ้น! ศาลตัดสินอุทธรณ์ คดี นปช.ก่อการร้าย ปี’53 ‘จตุพร’ น้อมรับผล คงอุดมการณ์ ปชต.

ลุ้น! ศาลตัดสินอุทธรณ์ คดี นปช.ก่อการร้าย ปี’53 ‘จตุพร’ น้อมรับทุกคำตัดสิน ยันอุดมการณ์ประชาธิปไตยยังคงเดิม

เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย คดีดำ อ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 75 ปี อดีตประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ หรือ ตู่ อายุ 58 ปี ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือ เต้น อายุ 48 ปี อดีตเลขาธิการ นปช. ในฐานะผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 72 ปี นายก่อแก้ว พิกุลทอง อายุ 58 ปี นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อายุ 65 ปี นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือ กี้ร์ อายุ 59 ปี แกนนำ นปช. กับพวก รวม 24 คน

เป็นจำเลยที่ 1-24 รวม 6 ข้อหา ในความผิดฐานร่วมกันในคดีก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2 ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ให้ล่วง ละเมิดกฎหมายแผ่นดิน เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 116, 215, 216 และร่วมกันชุมนุมฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 รวม 6 ข้อหา

นายจตุพรกล่าวถึงการเดินทางมาฟังการพิจารณาคดีในวันนี้ ซึ่งเป็นคดีก่อการร้ายในเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่งเป็นการอ่านคำตัดสินในชั้นอุทธรณ์ ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลได้พิพากษายกฟ้อง แต่อัยการมีการยื่นอุทธรณ์ และศาลก็ได้นัดอ่านในวันนี้ จากสาระตามคำฟ้องและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นประเด็นคดีก่อการร้ายคดีเดียว เพราะฉนั้นเมื่อไม่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายข้อกฎหมาย ศาลก็พิพากษายกฟ้องไป

Advertisement

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ส่วนตัวยังมีคดีเหลืออีกมากมาย โดยเฉพาะในศาลอาญา รวมคดีนี้ด้วยเป็น 4 คดี อยู่ในศาลชั้นต้นอีก 3 คดี ภายหลังจากคดีผ่านมาเกือบ 14 ปี ก็ถูกหยิบยกนำกลับมาฟ้อง ซึ่งผมโดนอยู่คนเดียว แต่ทั้งหมดทั้งปวงก็ได้พูดมาตั้งแต่ตอนต้นว่าไม่ตายก็ติดคุก แต่เมื่อเลือกหนทางนี้แล้ว ผมไม่เคยมานั่งนับเวลาว่าเมื่อพ้นโทษแล้วจะได้กลับมาสนามการเมืองอีกครั้ง เพราะคดียาวเป็นหางว่าว

นายจตุพรกล่าวว่า ผมเจอในสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเจอ แม้กระทั่งคดีแพ่งเวลานี้ก็ถูกฟ้องที่จะยึดบ้าน และอีกไม่กี่วันบ้านก็จะต้องถูกยึด เพียงแต่เราเองมีหลักการในการต่อสู้ ผมต่อสู้มาตั้งแต่วัยเด็ก แม้ว่าระหว่างทางจะแวะพรรคการเมืองบ้าง แต่อุดมการณ์ประชาธิปไตยของผมยังคงเหมือนเดิม

Advertisement

“บางเวลาก็ถูกใจคนบ้าง ไม่ถูกใจใครบ้าง และในวันนี้ก็น้อมรับคำวินิจฉัยของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ผมออกและเข้าคุกมาแล้วกว่า 5 ครั้ง รวมถึงยังถูกตั้งข้อสงสัย ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากหลายครั้ง ซึ่งผมก็เป็นของผมแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยน หลักการเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปอย่างนั้น” นายจตุพรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image