เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.สงขลาได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีรถโดยสารประจำทางปรับอากาศสายชุมพร-หาดใหญ่ ลักลอบขนคนต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางมาส่งระหว่างทางในพื้นที่ จ.สงขลา และจะมีนายหน้ามารอรับเพื่อพาเข้าพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเตรียมส่งไปตามที่ต่างๆ
ต่อมาเวลา 16.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นว่ารถเป้าหมายเข้าพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาแล้ว จึงสะกดรอยติดตามจนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดส่งผู้โดยสารชายจำนวน 4 คนลักษณะคล้ายคนต่างด้าวที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเฟสติวัล สาขาหาดใหญ่ แล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็วและมีคนมารอรับที่จุดดังกล่าว 1 คนเพื่อพาไปพักที่ศาลาริมทางเตรียมเดินทางเข้าพื้นที่ตัวเมือง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจเอกสารการเดินทาง ปรากฏว่าชายทั้ง 4 คนไม่สามารถแสดงเอกสารใดๆได้ ส่วนผู้ที่มารับถือหนังสือเดินทางชาวพม่าชื่อนายแทน ลา อายุ 28 ปี ยอมรับว่าได้รับว่าจ้างจากชายชาวพม่าให้มารับชายทั้ง 4 คนได้เงินค่าดำเนินการหัวละ 200 บาท โดยระหว่างทางได้ติดต่อนัดจุดกับคนขับรถประจำทางที่มาส่ง
จากการตรวจสอบพบว่า นายศักดิ์ชาย หนูนิล อายุ 44 ปี เป็นผู้ขับรถประจำทางและนายศักดา ขุนเพ็ชร อายุ 24 ปี เป็นพนักงานประจำรถ โดยนายศักดิ์ชาย รับว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้าชาวพม่า ในพื้นที่ จ.ชุมพรให้ขนคนต่างด้าวสัญชาติพม่าที่ไม่มีหนังสือเดินทางจำนวน 4 คนมาส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับค่าตอบแทนจำนวน 4,000 บาทจะแบ่งให้นายศักดา 2,000 บาท ระหว่างทางมีการนัดจุดลงรถระหว่างทางกับนายแทนลา เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหานายศักดิ์ชาย นายศักดา และนายแทนลา ฐานร่วมกันให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ และแจ้งข้อหากับชายชาวพม่าทั้ง 4 คน ฐาน เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวทั้งหมดส่งร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
