วิสามัญคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดปั๊มน้ำมัน สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบประวัติเป็นคนเชี่ยวชาญการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมสนธิกำลัง 3 ฝ่ายเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายซึ่งประชาชนให้ข้อมูลว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่ เข้าไปอาศัยหลบซ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 24 หมู่ 1 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จ.ยะลา
โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัว พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นำท้องที่และผู้นำศาสนาเข้าร่วมเจรจาด้วย แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลา 05.45 น. คนร้ายตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี ทำเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอิบรอเฮม สาและ อายุ 42 ปี มีความเชี่ยวชาญในการประกอบระเบิดแสวงเครื่อง
จากการรวบรวมหลักฐานพบว่ามีส่วนร่วมในการลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาธารโต รวมทั้งลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาเครื่องจักรและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อสร้างถนนของบริษัท ยะลาไฮเวย์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 รวมทั้งนายอิบรอเฮมยังมีหมายจับในคดีความมั่นคง จำนวน 1 หมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดอาวุธปืนพก ขนาด 9 มิลลิเมตร ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อนำไปพิสูจน์ทราบหาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป
พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตพร้อมทั้งขอให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการควบคุมพื้นที่ และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังในทุกขั้นตอน ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเกิดจากผู้ก่อเหตุรุนแรงยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตอบโต้จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้และพิสูจน์ตัวเองตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติดังกล่าว ซึ่งหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย หรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”