เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ ฝ่ายสอบสวน 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานร่วมสอบคดีพระธัมมชโยรับของโจร ฟอกเงินกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น กล่าวถึงกรณีมีการเปลี่ยนแปลงให้ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็น เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ และมีการแต่งตั้ง พระวิเทศภาวนาจารย์ หรือสมบุญ สมฺมปุญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า ไม่มีผลต่อการดำเนินการใดๆทางกฎหมายเพราะเเต่ละคนมีหน้าที่ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ทางสำนักพุทธฯก็ทำหน้าที่ไป ความผิดทางกฎหมายเป็นเรื่องเฉพาะตัวของพระธัมมชโยอยู่เเล้ว เพียงเเต่หากมีการตรวจค้นวัดเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันก็มีหน้าที่ที่จะประสานพาเจ้าหน้าที่เข้าไป เป็นเพียงการเปลี่ยนตำเเหน่งไป เเต่ไม่ได้หมายความว่าการกระทำในช่วงก่อนจะลบล้าง อย่างเจ้าอาวาสรูปก่อนมีการดำเนินคดีอย่างไรขั้นตอนก็ดำเนินต่อไป ส่วนเจ้าอาวาสใหม่จะมีโอกาสถูกดำเนินคดีเรื่องช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ก็เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง หากมีการประสานขอความร่วมมือ
เมื่อถามถึงเรื่องการขอหมายตรวจค้นวัด นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ตนว่าตอนนี้มีความพร้อมหมดเเล้ว เพียงเเต่รอจังหวะเเละวันนี้ก็มีการประชุมกันของชุดจับกุม ตรวจค้น มองว่าตอนนี้มีการเริ่มกดดัน เเละมีการปล่อยไฟเขียวในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ส่งสัญญาณชัดเจน มีการปิดทีวีของวัดเรียกว่า เตรียมความพร้อมทุกฝ่ายเเล้ว ถ้าส่งสัญญาณมาก็สามารถขอหมายค้นจับกุมได้ทันทีเลย ซึ่งตนก็เตรียมความพร้อมดำเนินการในเรื่องนี้ไว้เเล้ว เเละเชื่อว่าหากขอหมายค้นเเล้วศาลจะอนุญาตตามที่ขอเพราะออกหมายจับมาเเล้วเเต่คงกำชับในเรื่องของการระวังไม่ให้เกิดความสูญเสีย เเละถ้ามีการขอหมายค้นจะไปขอที่ศาลอาญา เเละในวันค้นจับ ตนก็จะเดินทางไปยังวัดด้วยเเต่คงอยู่ประจำจุดเพื่อรอรับตัว
