เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 13 ธันวาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รรท.ผบก.ส.4 พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.วชิรา ยาวไธสงค์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป.พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโด กก.ปพ.บก.ป. และแพทย์จาก รพ.ตำรวจ รับมอบตัว นายอุสมาน หรือมัง เจาะเงาะ อายุ 41 ปี นายมีซี เจ๊ะหะ อายุ 19 ปี นายปฐมพร มิหิแอ อายุ 19 ปี นายอัมรัม มะยี อายุ 23 ปี นายวิรัติ หะมิ อายุ 23 ปี และนายนิเฮง ยีนิง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง และร่วมกันกระทำการอันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ภายหลังร่วมกับพวก เตรียมการก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไว้ตามขั้นตอนการสอบสวนคดีความมั่นคง ภายหลังสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทาง พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช.เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาในวันนี้ ทั้งนี้ได้ตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้งหมดโดยแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ก่อนที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา และแยกกันสอบปากคำผู้ต้องหา มีทนายความร่วมรับฟังการสอบสวน ตามขั้นตอนการพิจารณาดำเนินคดี
สำหรับการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนั้น สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลภายหลังจับกุม นายตาลมีซี โต๊ะตาหยง อายุ 31 ปี นายอับดุลาซิร สือกะจิ อายุ 19 ปี และนายมูบารีห์ กะนะ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาเดียวกัน ที่ถูกทหารควบคุมตัวไว้ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และส่งมอบให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดี รวมทั้งมีการควบคุมตัวไปชี้จุดและตรวจค้นที่ห้องพักหลังมัสยิดยามีอุลอิสลาม ซอยรามคำแหง 53/1 เขตบางกะปิ และห้องพักที่ 207 ภายในอาคารเลขที่ 4/226 ต.บางเสาธง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยการสอบสวนทราบว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรวม14ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับเพิ่มเติม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 6 รายเป็นการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจากกรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันเตรียมการก่อเหตุคดีความมั่นคงใน กทม.3 รายก่อนหน้านี้ เป็นบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนรายละเอียดต่างๆอยู่ในสำนวนการสอบสวน อย่างไรก็ดีขณะนี้ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้วทั้ง14ราย แต่วันเดียวกันนี้มีการคุมตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน6ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหา 5 ราย ถูกติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอีก 1 ราย ถูกจับกุมในพื้นที่ กทม.และเนื่องจากเป็นคดีความมั่นคง ทางเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจในการควบคุมตัวและสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนมีการแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน ชั้นสอบสวนของฝ่ายทหาร ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ หลังจากสอบปากคำเสร็จสิ้น จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุ 2 แห่ง
“ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือเท่าที่ได้รับรายงานนั้นมีการกักตัวไว้แล้ว 4 ราย ในพื้นที่ ศชต. ส่วนที่เหลือนั้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวแล้ว อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าทั้งหมดเคยมีประวัติหรือมีส่วนเชื่อมโยงกับการก่อเหตุวางระเบิดที่ใดมาก่อน รวมทั้งในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินของผู้ต้องหานั้น ทาง ป.ป.ง.ดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะมีใครที่ว่าจ้างหรือบงการอยู่เบื้องหลังยังไม่สามารถตอบได้ อยู่ในสำนวน”พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 2 จุด ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาหัวหมาก และอพาร์ตเมนต์ในซอยรามคำแหง 53
