แม่จีจี้ เศร้ารับศพลูก เปิดใจ ครอบครัวฝ่ายชายขออโหสิกรรม รับคุมลูกไม่ได้ เผยสังหรณ์ใจวันสูญเสีย

แม่ใจสลาย รับศพ จีจี้ รู้มาตลอด ลูกถูกทำร้าย เคยห้ามให้คบกันแล้ว-ด้านพ่ออิคคิว ยอมรับ คุมลูกไม่อยู่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 เมษายน ที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี น.ส.ชุติกาญจน์ ธีระโรจนพงษ์ แม่ของ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือจีจี้ อายุ 19 ปี และนายกีรติ อาจหาญ อายุ 39 ปี พ่อเลี้ยง เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อรับร่างของลูกสาว หลังจากเมื่อวานช่วงบ่ายที่ผ่านมาพบร่างของ น.ส.สุพิชชา และ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา แฟนหนุ่ม เสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักคอนโดหรู ย่านอโศก

น.ส.ชุติกาญจน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอดช่วงเวลาที่คบกัน ตนทราบเรื่องมาตลอดว่า นตท.ภูมิพัฒน์ หรืออิคคิว ทำร้ายร่างกายลูกสาว ซึ่งทางครอบครัวของฝ่ายชายก็ทราบดีและทั้งสองครอบครัวไม่อยากให้มาคบกัน โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยเลิกรากันไปแล้ว แต่ก็กลับมาคบกันใหม่ โดยช่วงที่กลับมาคบกันใหม่ลูกสาวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมาก เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง ซึ่งตนก็ถามว่า “กลับมาคบกันใหม่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง” ทางจีจี้ก็บอกว่า “กลับมาคบกันแล้วดี ไม่มีอะไร”

ที่ผ่านมา ได้เตือนลูกตลอดเพราะลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก และฝ่ายชายก็เป็นคนชอบเล่นปืนและมีอาวุธปืนติดตัว เป็นคนอารมณ์ร้อน จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนทะเลาะกันภายในห้อง แล้วไม่มีบุคคลที่สามคอยห้ามจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้น แต่ลูกไม่ฟัง อาจเพราะยังเป็นวัยรุ่น และยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน

ในวันเกิดเหตุรู้สึกสังหรณ์ใจเพราะว่าไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ จึงคุยกับแม่ของฝ่ายชายตลอด ซึ่งก็ทราบว่าไม่สามารถติดต่อฝ่ายชายได้เหมือนกัน และแม่ของฝ่ายชายก็บอกว่าอิคคิวมาหาจีจี้ ตนจึงติดต่อเพื่อนให้มาเปิดห้องให้ ก่อนจะเจอเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจและไม่อยากพูดถึงอีกเพราะ ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ADVERTISMENT

สำหรับประเด็นในโลกโซเชียล ที่มีข้อความของจีจี้และรูปภาพส่งไปให้เพื่อนแล้วบอกว่า อิคคิวใช้อาวุธปืนยิงประตูทะลุ เรื่องนี้ตนทราบดีเพราะว่าเหตุเกิดที่บ้านของฝ่ายชาย และพ่อกับแม่ของฝ่ายชายก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเขาได้แจ้งว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน แล้วก็พยายามห้ามปรามแล้วแต่ไม่สามารถห้ามลูกได้

ที่ผ่านมาอิคคิวมีพฤติกรรมชอบเล่นปืนและยิงปืนมาก หลังช่วงสงกรานต์ ยังพาจีจี้ไปยิงปืนที่สนามด้วยอยู่เลย ซึ่งก็เข้าใจว่าหลังจากที่เล่นปืนเสร็จแล้วก็คงให้คนขับรถเอาปืนไปเก็บไม่ทราบมาก่อนเลยว่า ฝ่ายชายจะพกปืนติดตัวด้วย

“เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางด้านครอบครัวของฝ่ายชายก็เลี้ยงลูกมาแบบตามใจ จึงยอมรับกับเราว่า ไม่สามารถคุมลูกได้ เพราะลูกเป็นคนใจร้อน ขอโทษและขออโหสิกรรมกับทางครอบครัวเราด้วย ในหัวอกคนเป็นแม่ก็สูญเสียลูกเหมือนกัน จึงไม่อยากให้เรื่องบานปลายอยากให้ต่างคนต่างส่งลูกของตัวเองให้ดีที่สุด”
น.ส.ชุติกาญจน์กล่าว

“ตอนนี้หนูไปสบายแล้ว แม่ขอให้หนูไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ แม่จะส่งลูก และทำให้ดีที่สุด” น.ส.ชุติกาญจน์กล่าว และว่า ตนก็ยังคาใจเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุว่าเจ้าของปืนจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ก็อยากให้ตำรวจชี้แจงเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม

ด้านนายกีรติ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า ครอบครัวฝ่ายชายเลี้ยงลูกมาแบบผิดๆ ในมุมมองของตน พ่อควรเตือนลูกว่าไม่ให้พกปืน เนื่องจากอายุยังไม่ถึง และสงสัยว่าอายุยังไม่ถึง ทำไมถึงสามารถเข้าไปที่สนามยิงปืนได้

“โดยทราบมาว่าฝ่ายชายถูกเลี้ยงมา โดยที่คิดตลอดว่า พ่อของตัวเองมีอำนาจ จึงเป็นคนเอาแต่ใจและอารมณ์รุนแรง เราไม่ได้โกรธเกลียดอะไรทางครอบครัวของฝ่ายชาย ตอนที่ทราบว่าทั้งสองคนเลิกกัน เราก็ดีใจเพราะลูกได้หลุดพ้นแล้ว แต่เมื่อมาถึงวันนี้ทั้งสองก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก็อยากให้ครอบครัวของฝ่ายชายจริงใจกับครอบครัวเรา รู้ว่าเขามีเพาเวอร์ใหญ่ เราไม่ได้กลัว แต่อยากให้ข่าวจบด้วยดีจีจี้ไม่มีอะไรเสียหาย และฝ่ายชายก็ไม่มีอะไรเสียหายไปมากกว่านี้”

อย่างไรก็ตาม ในมุมของกฎหมายตำรวจบอกว่าถ้าหากเจ้าของปืนมีส่วนรู้เห็นว่าอิคคิวเอาปืนมาใช้ ก็จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยนั้น เห็นด้วยอย่างยิ่ง เบื้องต้นจากที่สอบถามตำรวจทราบมาว่าปืนเป็นของพ่อฝ่ายชาย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า ทำไมฝ่ายชายถึงคิดว่าตัวเองมีอำนาจตลอดเวลา ที่ผ่านมามีการข่มขู่เรื่องนี้หรือไม่ ด้านนายกีรติ ตอบว่า “ไม่แปลกที่ลูกไม้จะหล่นไม่ไกลต้น”

เบื้องต้นหลังรับร่างน้องจีจี้ทางมารดาและพ่อเลี้ยงจะนำพระสงฆ์ไปสวดอัญเชิญวิญญาณ บริเวณจุดเกิดเหตุ คอนโดย่านอโศก ก่อนจะนำร่างของนางสาวสุพิชชา ไปตั้งสวดอภิธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image