“ชูวิทย์”พ้นเรือนจำ สวมกอดลูกสาวชื่นมื่น ลั่นไม่ยุ่งการเมือง อยากเป็นพิธีกร-ผู้ประกาศ(คลิป)

เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 16 ธันวาคม ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกรมราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ต้องขังคดีรื้อบาร์เบียร์ ที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก2ปี โดยมีนางสุรัชดา แววศรี หรือเก๋ น.ส.ดวงตระการ กมลวิศิษฏ์ ภรรยาและลูกสาวคนเล็ก พร้อมครอบครัวและทนายความเดินทางมารอรับ โดยนายชูวิทย์ มีสีหน้ายิ้มแย้มและทันทีที่ได้รับอิสรภาพ ได้โผเข้าโอบกอดน.ส.ดวงตระการ ด้วยความชื่นมื่น จากนั้นนายชูวิทย์ ได้เดินมากราบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธรที่อยู่บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนเดินมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวกว่า 10 ชั่วโมง

ชูวิทย์4

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องโทษทุกคนให้ได้กลับเนื้อกลับตัว ตนจะพึงระลึกว่า อิสรภาพครั้งนี้เปรียบเสมือนชีวิตใหม่ และจะปฏิบัติตัวเป็นคนดี ขอสังคมให้โอกาส

ชูวิทย์1

Advertisement

“ที่ผ่านมาผมยอมรับผิดหมดทุกอย่าง ช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำได้ช่วยงานกรมราชทัณฑ์ด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่เก็บศพภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รวมแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนถึงวันนี้เก็บศพมาแล้ว80ศพ และวันนี้ยังเก็บศพหญิงสาวที่ต้องโทษเป็นคนสุดท้ายด้วย ผมอยู่กับศพ กับน้ำเหลือง กับอึกับฉี่ ใครคิดว่าผมใช้ความเป็นบิ๊กเนมใช้ความสุขในเรือนจำไม่จริง และขอยืนยันว่าเป็นนักโทษเต็มตัว ไม่ได้อยู่สบาย หรือเป็นผู้ต้องขังบิ๊กเนมอย่างที่มีใครกล่าวถึง ที่สำคัญ ผมรับโทษจริง ไม่ได้อ้างว่า บวชอยู่ ป่วยอยู่หรือ หนีคดีอะไร” นายชูวิทย์ กล่าว

ชูวิทย์6

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า โดยสิ่งแรกที่จะทำหลังจากนี้ คือ จะเดินทางไปโรงแรม เดอะ เดวิส แบงค็อก ซอยสุขุมวิท 24 เพื่อว่ายน้ำเพราะเป็นกิจกรรมที่อยากจะทำมากที่สุดหลังออกจากเรือนจำ ส่วนจะกลับไปเล่นการเมืองหรือไม่นั้น คงไม่คิดจะกลับไปยุ่งเพราะกลัวติดคุก แต่ที่อยากทำที่สุดคือไปเป็นพิธีกร หรือผู้ประกาศข่าว เพราะสามารถกระชากเรตติ้งได้

Advertisement

ชูวิทย์8

“อยากนั่งคุยกับคุณสรยุทธ์ สุทัศนจินดา แต่ไม่รู้ว่าคุณสรยุทธ์ยังอยู่ไหม อ้าวไม่อยู่แล้วเหรอ งั้นผู้ประกาศคนอื่นก็ได้ หรือไม่ก็ผมอาจจะเขียนหนังสือชีวิตในเรือนจำสักเล่ม และหลังจากนี้ตั้งใจว่า วันที่ 17 ธันวาคมนี้จะบินไปสหรัฐอเมริกา ไปรับปริญญาลูกสาวคนโต และพักอยู่ที่นั่นประมาณ 1 สัปดาห์ หลักจากนั้นจะกลับเมืองไทยและแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” นายชูวิทย์ กล่าว

ชูวิทย์9

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้สัมภาษณ์นายชูวิทย์ พร้อมครอบครัวได้ขึ้น รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 2 กม 7412 กรุงเทพมหานคร ออกไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายชูวิทย์ ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2559 และถูกจำคุกตามมาตรา 365 จะได้รับการลดวันต้องโทษตามมาตรา 7 ของพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษพ.ศ.2559 เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ จำนวน 1 ใน 4 ของโทษ จึงได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ ถือเป็นผู้ต้องขังกลุ่มแรกที่จะได้รับการปล่อยตัว โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือ สิงหาคมที่ผ่านมา นายชูวิทย์ได้รับพระราชทานอภัยโทษด้วยการลดโทษตามพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2559 เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ70ปี วันที่ 9 มิถุนายน 2559 และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา7รอบ วันที่ 12 สิงหาคม 2559 ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเป็นผู้ต้องขังชั้นดี ดังนั้นนายชูวิทย์จึงได้รับการพระราชทานอภัยโทษรวม 2 ครั้ง ก่อนได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ จะมีการปล่อยตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม เวลา 10.00 น. มีเฉพาะในส่วนของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และทัณฑสถานหญิงกลางเท่านั้น ที่ได้รับหมายปล่อยตัวในวันนี้ โดยในส่วนของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในวันนี้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังทั้งสิ้น45ราย ขณะที่ทัณฑสถานหญิงกลาง มีการปล่อยผู้ต้องขัง 123 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image