แจ้งข้อหา “แอม ไซยาไนด์” เพิ่มอีก 80 ข้อหามากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวม 15 คดี มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย รายงานข่าวจากชุดคลี่คลายคดีว่าพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามารวมในสำนวน เริ่มมีความชัดเจนทางคดีมากขึ้น หลังจากนี้จะแจ้งข้อหากับนางสรารัตน์ ผู้ต้องหา เพิ่มเติมคดีละ 3-5 ข้อหา รวมเกือบ 80 ข้อหา เบื้องต้นตามหลักฐานที่ชัดเจนแล้วโดยจะทยอยแจ้ง 40 ข้อหาภายในสัปดาห์นี้ ส่วนที่เหลือรอหลักฐานในส่วนอื่นที่จะนำมาประกอบให้สมบูรณ์ก่อนจึงจะแจ้งในภายหลังอีก 40 ข้อหา ถือได้ว่าเป็นการแจ้งข้อหาที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนางสรารัตน์จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมประกอบด้วย มาตรา 236 ผู้ใดปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขาย สิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้ (ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) มาตรา 289(6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น (ต้องระวางโทษประหารชีวิต)
มาตรา 289(7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ (ต้องระวางโทษประหารชีวิต) มาตรา 339 ผู้ใดลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย (ผู้นั้นกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท) และความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย เป็นต้น
