เปิดพฤติการณ์ฉาว ผู้การชลบุรี ถูกแจ้งจับตบทรัพย์ 140 ล้าน วลีเด็ด “เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา”

พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี (แฟ้มภาพ)

เปิดพฤติการณ์ฉาว ผู้การชลบุรี ถูกแจ้งข้อหาตบทรัพย์ 140 ล้าน ลั่นวลีเด็ด “เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา”

จากกรณีที่ ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี แจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ที่ก่อเหตุร่วมกันตบทรัพย์ผู้เสียหาย ในคดีเว็บพนัน และรีดเงินรวม 6 ครั้ง กว่า 140 ล้านบาท โดยจับกุม พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกอีกรวม 9 คน ได้แก่

1. พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
2. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
3. พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี
4. พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง
5. พ.ต.อ.ดำรงค์ อ่อนตา ผกก.สอท.
6. พ.ต.ต.นครราช นนสีลาด
7. พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่
8. ร.ต.อ.สมบุญ บุตรดาเลิศ
9. นายพิสิษฐ์ คณิศรพาณี หรือต้น
10.นายวีระ นาทรัพย์ หรือบอย

โดยมีรายงานว่า พล.ต.ต.กัมพล ได้บอกกับผู้เสียหายว่า “รักผู้การเท่าไหร่ เขียนมา” ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายทั้ง 6 ราย ได้แก่

1.นายธนินวัฒน์ (สงวนนามสกุล)
2.นายเสฎฐวุฒิ (สงวนนามสกุล)
3.นายอภิรักษ์ (สงวนนามสกุล)
4.นายจักรกริช (สงวนนามสกุล)
5.นายพัฒนะ (สงวนนามสกุล)
6.นายเกียรติศักดิ์ (สงวนนามสกุล)

โดยพฤติการณ์ของคดีนั้น ผู้เสียหายทั้ง 6 ราย กล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษาคม เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำค้น 3 จุด ได้แก่

Advertisement

จุดที่ 1 นายธนินวัฒน์ หรือเป้ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. พบนายธนินวัฒน์ ในสถานที่ตรวจค้น ได้แสดงหมายจับและนำตัวไป สน.คันนายาว
จุดที่ 2 นายเสฎฐวุฒิ หรือกัน ที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตรวจค้นแล้วไม่พบนายเสฎฐวุฒิ เนื่องจากเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ โดยได้มีไลน์ไอดี ชื่อ Mr.Ton ติดต่อมา โดยมีการส่งหมายจับมาให้ดู และจะรีบกลับไปพบ Mr.Ton
จุดที่ 3 นายอภิรักษ์ หรือต๊อบ ที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตรวจค้นแล้วไม่พบอภิรักษ์ เนื่องจากไปเข้าไปทำธุระใน กทม.

หลังจากนายธนินวัฒน์ ถูกนำตัวไป สภ.คันนายาว แล้ว ชุด ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี เวลา 16.00 น. ได้นำตัวนายธนินวัฒน์ ไป ที่ ภ.จว.ชลบุรี และได้พบกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และมีการพูดคุยเรื่องคดีว่าเส้นทางการเงินพัวพันกับครอบครัว โดย พล.ต.ต.กัมพล แจ้งนายธนินวัฒน์ ให้ทราบว่า มีทางออก และพูดอีกว่า “เป้รักผู้การเท่าไร เป้เขียนมา” หลังจากนั้น พล.ต.ต.กัมพล ได้พานายธนินวัฒน์ออกจากห้อง และนายธนินวัฒน์ ได้เข้าไปที่ห้องซักถาม (ข้างห้อง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) ซึ่งนายธนินวัฒน์ ได้อยู่กับ เจ้าหน้าที่ชุด ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี และในขณะนั้นเอง ได้มีนายพิสิษฐ์ หรือต้น ได้เข้ามาในห้องดังกล่าวด้วย และได้ดึงตัวนายธนินวัฒน์ ไปพูดคุยเกี่ยวกับการเคลียร์คดี โดยให้นายธนินวัฒน์ เสนอราคา โดยนายธนินวัฒน์ เสนอจำนวน 20 ล้านบาท แต่นายพิสิษฐ์ หรือต้น ไม่พอใจ และแจ้งว่าคิดจำนวนเงินให้แล้วเป็นเงิน 120 ล้านบาท โดยมีการเจรจาต่อรองจนเหลือยอดเงิน 65 ล้านบาท

หลังที่มีการตกลงราคากันแล้ว นายวีระ หรือบอย ได้เข้ามาในห้องดังกล่าวด้วยพร้อมพูดกับนายธนินวัฒน์ ว่า “มึงอยู่เฉยๆ เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว มึงจ่ายที่ไอ้ต้นเลย”

ผู้เสียหาย กล่าวหาอีกว่า จากนั้นเวลา 23.00 น. ในวันเดียวกัน เมื่อมีการตกลงเรื่องเงินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำตัวนายธนินวัฒน์ ออกจาก ภ.จว.ชลบุรี โดยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลฟาร์ด สีดำ ติดหมายเลขทะเบียนแดง (ไม่สามารถจดจำได้) นั่งไปกับนายวีระ หรือบอย ไปยัง ชั้น 4 สภ.บางละมุง (ที่ทำการของ ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี) โดยนายพิสิษฐ์ และนายวีระ ได้ให้นายธนินวัฒน์ ติดต่อเพื่อหาเงินมาเคลียร์เป็นจำนวนเงิน 65 ล้านบาท และในคืนดังกล่าว นายธนินวัฒน์ ได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.บางละมุง

วันที่ 24 พฤษภาคม นายธนินวัฒน์ สามารถติดต่อยืมเงินเพื่อส่งให้กับกลุ่มดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 65 ล้านบาทได้แล้ว โดยมาจากนายเค จำนวน 29.2 ล้านบาท ,นายพุ จำนวน 8 ล้านบาท และ น.ส.ใหม่ จำนวน 28 ล้านบาท และได้แจ้งให้นายเสฎฐวุฒิ ทราบว่านายพิสิษฐ์ ได้เรียกเงินในส่วนของตน เองเป็นจำนวน 20 ล้านบาท และนายเสฎฐวุฒิ ได้หาเงินจำนวนดังกล่าว โดยมาจาก นายบอย โดยมีการนำส่งไปยังกลุ่ม นายวีระ และนายพิสิษฐ์ นำส่งไปยัง บริเวณกระโปงท้ายรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ภายในลานจอดรถสุดซอย หมู่บ้านหนึ่ง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อีกส่วนหนึ่งนำส่งหลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อ.แม่สรวย จว.เชียงราย

เมื่อมีการนำส่งเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว รวม 85.2 ล้านบาท เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ชุด ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี และนายวีระ ได้นำตัวนายธนินวัฒน์ ไปยัง สภ.แสนสุข เพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยพล.ต.ต.กัมพล ได้อยู่ที่ สภ.แสนสุขด้วย และสั่งการให้ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เข้ามาควบคุมการทำสำนวน และการประกันตัว

หลังจากได้รับการประกันตัว เวลา 22.00 น. นายวีระ ,เจ้าหน้าที่ชุด ศอปส.ภ.จว.ชลบุรี(บางส่วน) และ นายธนินวัฒน์ ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านป้าแดง ลาบอุบล หลังจากนั้นนายวีระได้นำตัวนายธนินวัฒน์ โดยรถยนต์ยี่ห้อปอเช่ รุ่นคาเยน สีบรอนซ์ทอง ไปส่งนายธนินวัฒน์ที่บ้าน

วันที่ 25 พฤษภาคม เวลาประมาณ 00.00 น. นายเสฎฐวุฒิ หรือกัน ได้เดินจากประเทศสิงคโปร์ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีนายเกียรติศักดิ์หรือเอ็ม ได้เดินทางไปรับ นายเสฎฐวุฒิ พร้อมเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อไปพบนายพิสิษฐ์ ที่ร้าน G-Day และมีการมอบเงินให้กับนายเสฎฐวุฒิ ไป และแจ้งว่าในวันที่ 26 ให้นำเงินมาเคลียร์อีก 20 ล้านบาท

ผู้เสียหาย แจ้งอีกว่าวันที่ 26 พฤษภาคม นายวีระ ได้นัดให้นายธนินวัฒน์ และนายจักรกริชหรือแก๊บ ไปพบนายวีระ ที่ร้านอาหารปูเป็น เวลา 13.00 น. เพื่อพูดคุยเรื่องคดีของนายจักรกริช ขอเข้าเป็นหุ้นส่วนเว็บพนัน และเรียกรับเงินอีกจำนวน 30 ล้านบาท ส่วนของนายพัฒนะ ,นายเกียรติศักดิ์ และนายอภิรักษ์ กลุ่มโปรแกรมเมอร์ โดยให้ไปมอบให้ในวันที่ 27 พฤษภาคม

ตามที่ นายพิสิษฐ์ ได้นัดหมาย นายเสฎฐวุฒิไปพบเพื่อเคลียเงินจำนวน 20 ล้านบาท โดยนายเสฎฐวุฒิ เดินทางไปพร้อมกับนายเกียรติศักดิ์ นายพัฒนะ และ นายอภิรักษ์ ไปพบกับนายพิสิษฐ์ที่ บริเวณร้านสตาร์บัคส์ ล็อบบี้ โรงแรมเซ็นทารา พัทยา และมอบกระเป๋าเดินทางที่ใส่เงินจำนวน 20 ล้านบาทให้กับนายพิสิษฐ์

วันที่ 27 พฤษภาคม นายจักรกริช ได้เดินทางไปร้าน Slowride Coffee&Caf อำเภอบางละมุง ชลบุรี พร้อมกับเงินจำนวน 30 ล้านบาท ตามคำสั่งของนายวีระ เมื่อไปถึง พบชายไทยไม่ทราบชื่อ ผิวคล้ำ เดินกะเผลก พูดไม่ชัด อ้างว่ามาจากนายบอย และนายจักรกริช ได้ส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้จำนวน 30 ล้านบาท

ผู้เสียหายทั้ง 6 รายจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาสุพัน รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี, พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง, นายพิสิษฐ์หรือต้น คณิศรพาณี และนายวีระหรือบอย นาทรัพย์ ตลอดจนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” , “เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” , “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น” , “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” โดยให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image