‘พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว’ ลุยล้าง-รื้อ‘ส่วยทางหลวง’ (คลิป)

‘พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว’ ลุยล้าง-รื้อ‘ส่วยทางหลวง’

“ผมบอกครอบครัว บอกลูกๆว่า  เราอยู่อย่างมีเกียรติ โดยไม่เอาเงินสกปรกมาหล่อเลี้ยงชีวิต…”

หมายเหตุ – พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ “ผู้การเต่า” รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (รรท.ผบก.ทล.) มา 2 เดือนเศษแล้ว เพื่อทำภารกิจกวาดล้างส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวง แก้ปัญหาทุจริตและกอบกู้ภาพลักษณ์ บก.ทล. ได้เปิดห้องทำงานเพื่อฉายภาพการแก้ปัญหาให้ฟัง

⦁ตลอด 2 เดือนเศษ ได้แก้ส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวงอย่างไร

ภายหลังผู้ประกอบการร้องทุกข์ต่อนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ทำให้เกิดปัญหาในวงกว้าง กระทบตำรวจทางหลวงที่มีอยู่ทั่วประเทศ ได้พยายามแก้มาตลอด 2 เดือน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ บก.ทล. ส่วน บก.ปปป. มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงส่วยทางหลวงด้วย ได้ข้อมูลเป็นพยานบุคคลแต่ไม่ยอมให้บันทึก พบเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง 29 คน และมี 11 คน มีส่วนเรียกรับทรัพย์สิน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส่วยทางหลวง จึงได้ให้ตำรวจทั้ง 40 นาย มาประจำ บก.ทล.เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริง

ADVERTISMENT

จากการสอบสวน บก.ปปป.พบว่า ใน 40 คน มี 29 คน ที่ผู้ประกอบการให้การว่ามีเกี่ยวข้องรับส่วย แต่มี 6 คน ยอมให้การเป็นพยาน นอกนั้นให้การแต่ไม่ยอมพาดพิง ตรงนี้ผู้บังคับบัญชาก็ต้องไปดำเนินการ

ในส่วน 6 คน มีรอง ผกก. 1 คน, รอง สว. 1 คน และชั้นประทวน 4 คน บก.ปปป.ได้เรียกมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) แล้ว ดำเนินคดีในความผิดเรียกรับ มาตรา 149 และมาตรา 157 เป็นโทษหนักถึงประหารชีวิตเลย

ADVERTISMENT

อีกกลุ่มที่ไม่โดนดำเนินคดีแต่ถูกพาดพิงประมาณ 23 คน บก.ปปป.จะทำเรื่องเสนอผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ดำเนินการทางปกครอง มีการโยกย้ายตามวาระที่จะถึง

ตอนนี้ บก.ทล.ได้ส่งตำรวจ 40 คน กลับต้นสังกัดแล้ว แต่มีคำสั่งกำกับไปว่า 1.ไม่ให้ทำงานยุ่งเกี่ยวประชาชน 2.ไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวผลประโยชน์เรียกรับทรัพย์สินทั้งทางตรงทางอ้อม ถ้าไม่ดำเนินการจะดำเนินการผู้บังคับบัญชาด้วย

ทาง บก.ปปป.กำลังสอบตำแหน่งที่เป็นข้อกังขากันอยู่ทุกวันนี้ ไล่ข้อมูลไปทุกเรื่อง จากการสอบปากคำ รอง สว.และรอง ผกก.ที่ถูกดำเนินคดียังไม่ให้การพาดพิง ดังนั้นต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาหาอย่างอื่นเพื่อสอบสวนเอาผิด ทั้งเส้นทางการเงิน พยานหลักฐานต่างๆ

⦁ประชาชนยังกังขาส่วยทางหลวงจะหมดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่

ผบ.ตร.เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ พยายามแก้ปัญหาไม่ให้ตำรวจทางหลวงยุ่งเกี่ยวส่วย ตอนนี้ปรับเรื่องรายได้ที่ถูกต้องตามกฎหมายตำรวจ มีเงินรางวัลจากค่าปรับที่เป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีนโยบายและสั่งให้ ผกก.และสารวัตร (สว.) ที่คุมส่วนนี้ไปชี้แจงรายละเอียดการจ่ายเงินรางวัลให้ครบถ้วนโดยเป็นหลักฐาน รวมทั้งเงินกู้สหกรณ์ให้ช่วยลดดอกเบี้ยด้วย

เมื่อก่อนทางหลวงเน้นการบริการ แต่ตอนนี้ต้องเน้นแก้อาชญากรรมบนท้องถนนหลวงเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งยาเสพติด ของเถื่อน มือปืน หรืออาชญากรรมทุกประเภทนั้นอยู่บนถนน ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่จะใช้ป้ายทะเบียนปลอมทั้งป้ายแดงและป้ายขาว มีใบสั่งที่ออกมาแล้วรถไม่ตรงกับทะเบียน ทำให้ใบสั่งนั้นไม่เคยไปถึงพื้นที่ที่ออกใบสั่งเลย จึงรวบรวมทั้งหมดเข้าระบบของทางหลวง เพื่อจะประกาศสงครามกับป้ายปลอมทั่วประเทศ

นอกจากนี้ให้ตำรวจลงพื้นที่ทำงานคู่กับเครื่องออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ หากได้เครื่องมาจำนวนมาก ทำให้ตำรวจอยู่ในพื้นที่ได้มาก ป้องกันเหตุ และมีรายได้จากจุดนี้ ผมถึงบอกว่าตำรวจทางหลวงเป็นตำรวจที่ดีมีวินัย เพียงแต่ว่าอาจจะถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นต้องสร้างความเป็นธรรมให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวทุจริต

⦁ที่บอกตำรวจทางหลวงดีมีวินัย แต่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ใครเป็นคนเอาเปรียบ

ผู้บังคับบัญชาหลายๆ คนไม่ได้มีใจเป็นธรรมเท่าไร ต้องตอบตรงๆ ไม่ใช่ไปปกป้อง บางคนบอกซ้ายไปขวา บางคนอมเงินลูกน้อง ผมต้องมาแก้ปัญหา เวลาแค่ 3 เดือน จะให้แก้ปัญหาตำรวจทางหลวงให้หมดนั้นยาก

หากนายใจไม่เป็นธรรม ความเดือดร้อนก็มาสู่องค์กร ความไม่ยุติธรรมมาสู่ลูกน้อง เพราะฉะนั้นต้องปรับหลายเรื่อง ตำรวจทางหลวงเป็นหน่วยมีเกียรติ มีชื่อเสียง เพราะฉะนั้นภาพลักษณ์ขององค์กรต้องสร้าง กู้คืนศักดิ์ศรีตำรวจทางหลวงอีกครั้ง

⦁นอกจากจะเคลียร์ในบ้านตัวเอง ต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องการปฏิบัติงานหรือไม่

ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องเร่งคิดและพิจารณา เพราะว่าเราเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการตามกฎหมาย รู้มาว่าความเดือดร้อนเหล่านี้ไปถึงกับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ในส่วนที่อยากให้ว่ากันตามกฎหมายก็ถูกต้องถือว่าดี แต่ในส่วนผู้ประกอบการก็อาจรับภาระไม่ไหวเขาจำเป็นจะต้องหารายได้มาส่งรถ มาดูแลครอบครัวก็น่าเห็นใจ แต่ผมพูดไปแล้วว่านาทีนี้ผู้ประกอบการทุกคนต้องปรับตัว เพราะผมจะปฏิบัติการตามกฎหมาย 100% เป็นเวลายาว เพราะฉะนั้นใครจะหวังว่าจะปล่อยให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่ง ต้องไม่มี อย่างน้อยที่สุดในช่วงที่ผมรักษาการอยู่ 4 เดือนไม่มี

⦁ส่วยสติ๊กเกอร์แต่ละปีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้าน ตลอดนั่งรักษาการผู้การทางหลวงจะไม่ให้มีขึ้นอีกแล้วใช่หรือไม่

ช่วงผมอยู่ตรงนี้ยืนยันปฏิบัติตามกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ ตีตั๋วยาว ทราบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากเดือดร้อน ควรต้องเร่งแก้กฎหมาย เพราะไม่ต้องการเห็นประชาชนผู้ประกอบการแบกรับภาระระยะยาว

เงินที่ไม่ชอบตรงนี้ ขอยืนยันและประกาศไปทั่วแล้วว่า ทุกคนห้ามยุ่งเกี่ยว ตอนนี้มีอย่างเดียวคือ ต้องทำงานเพื่อชดใช้ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในองค์กร การทุจริตคือเงินที่ใครก็อยากได้ แต่ทุกคนต้องรู้จักพอ

⦁จากนี้ไปมีอะไรน่าหนักใจเกี่ยวกับเรื่องส่วยอีก

ยังไม่มีเรื่องหนักใจ เข้ามาแก้ปัญหาในส่วนต่างๆ ไปได้พอสมควร แต่ยังไม่จบ ถ้าตำรวจยังมีรายได้ไม่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายก็ยังจะต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก เรื่องนี้ต้องแก้มาจากข้างบนไม่ใช่แก้จากด้านล่าง ข้างล่างพยายามแก้ให้ตำรวจมีวินัยรักองค์กร และส่งเสริมรายได้ที่มาจากค่าปรับไม่ใช่ไปเรียกรับทรัพย์สิน

⦁มีคติการทำงานอย่างไร?

ถ้าคิดว่าเหนื่อย ไม่กล้า ก็ไม่ควรมาทำงานนี้ ต้องมองภาพลักษณ์องค์กรเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้มองเรื่องส่วนตัว ถ้าเราไม่กล้า บก.ปปป.ที่เราอยู่คงไม่กล้าไปจับถึงระดับอธิบดี นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่รัฐระดับใหญ่ๆ ถือเป็นหน้าที่ อาจส่งผลกระทบต่อเราบ้าง เป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอ ก็เดินไป ถือว่าทำเพื่อส่วนรวม อย่าไปเครียดกับมัน ยังนอนหลับ นอนพอเพียง 6-7 ชั่วโมง

ผมมีวิธีคิดแง่บวก ได้มาช่วยตำรวจทางหลวง สร้างหน่วย ช่วยเพิ่มรายได้ แล้วได้ทำงาน
ส่วน บก.ปปป.ก็คิดบวก คือตอนแรกมาเป็น ผบก.ปปป.เหมือนเก็บกรุ แต่มองวิกฤตเป็นโอกาส ความจริง บก.ปปป.เป็นหน่วยงานมีอำนาจมาก แต่ทำไมคนเดินผ่านไปโดยไม่ใช้อำนาจนี้ ตอนนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ขณะนั้นเป็น ผบช.ก. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขณะนั้นเป็น ผบก.ป. ทั้งสองให้กำลังใจบอกว่า “เต่า (ชื่อเล่น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ) ช่วยให้ บก.ปปป.เป็นเสือตัวจริงหน่อย”

ในเมื่อเราเคยผ่านงานสืบสวน เป็นนักสืบให้มาช่วย ต้องประสาน ป.ป.ช.และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ด้วย จึงเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้มีทัศนคติในการทำงานที่ดี และยังได้บุญกุศลและความอิ่มเอิบใจ อย่างโครงการอาหารกลางวัน ก็ได้เข้าจู่โจมตรวจค้น ทำให้คนไม่กล้า อาหารกลางวันมีคุณภาพขึ้น อีกไม่กี่วันนี้จะดำเนินคดีครูโกงกินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนด้วย

บางทีมีคนมาหาแล้วลืมกระเป๋าไว้ในห้อง กระเป๋าใบใหญ่น้ำหนักหลายกิโลกรัมก็ให้ลูกน้องวิ่งไปคืน คือ อาจมาขอเรื่องคดี แล้วคนเหล่านั้นรู้ว่าขอไม่ได้ เราต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมไปสู่สังคม ว่าอย่าทำนะ ยังมีหน่วยงานบูรณาการทำงานพวกนี้อยู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), ป.ป.ช. ทำงานอยากเปลี่ยนแปลงสังคมดีขึ้น

⦁มองเหมือนเป็นตำรวจตงฉิน ภาพลักษณ์เปาบุ้นจิ้น แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น

พูดจริงนะ ตั้งแต่วันที่จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้รับพระทานราชกระบี่และฟังพระราชทานพระบรมราโชวาท จึงอยากเป็นตำรวจที่ดี ตั้งใจทำงานเรื่อยมา ตอนแรกอาจไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าไร เพราะทำงานอย่างเดียว ไม่เคยเข้าหานาย โตมาด้วยการทำงาน เป็นนักสืบไม่ยุ่งกับผลประโยชน์ อยู่กับลูกน้อง ทำงานไม่เคยเรียกผลประโยชน์จากใคร

ผมไม่ใช่บุคลิก “ตู้” (เคร่งระเบียบวินัย ) ทำงานให้ส่วนรวมตั้งแต่จบ ถือว่าทำงานให้ส่วนรวม แต่บางทีเรามาจุดหนึ่งเป็นผู้บังคับการโดยไม่ได้ไปวิ่งเต้น เรียกร้องอะไร ต้องทำงานให้คุ้มค่า ใช้อำนาจหน้าที่แก้ปัญหาให้หลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เล่าให้ฟังบางทีอาจจะไม่เชื่อ เคยไปช่วยครอบครัวหนึ่งถูกไล่ล่า ยึดทรัพย์ โดยอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ได้เข้าไปช่วยไม่ให้ถูกรังแก วันหนึ่งเอาเงินมาให้ 10 ล้านบาท ผมไม่เอา เที่ยวสองก็เอาใส่มาอีก ก็ไม่เอาเหมือนเดิม เที่ยวที่สามให้สามีมาคุยก็ไม่เอาอีก เชื่อหรือไม่ตอนนี้เป็นบุญคุณกันทุกวันนี้ใช้หนี้กันไม่หมด

บอกกับครอบครัว บอกลูกๆ ว่า เราอยู่อย่างมีเกียรติ ไม่ไปเอาเงินสกปรกมาหล่อเลี้ยงชีวิต เราเชื่อว่า ต้องอยู่ได้โดยไม่มีสิ่งนี้ ถ้าทำความดี ความดีจะตอบแทน แล้วลูกเมียเดินไปในสังคมก็ไม่อายใคร เป็นคนที่มีเกียรติด้วย เพราะฉะนั้นลูกก็จะนับถือพ่อเป็นไอดอล สอนลูกอยู่เรื่อยๆ ลูกก็ภาคภูมิใจ และผมก็ภาคภูมิใจ คือไม่อยากเป็นคนที่แย่แล้วสร้างรอยบาปให้ครอบครัว

ลิก ดูคลิปสัมภาษณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image