เมื่อวันที่ 1 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ร.11 พัน.2 รอ.พร้อมนำกำลังทหารชุดเฉพาะกิจกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย 6 นาย เข้าตรวจค้นจับกุมแหล่งลักลอบเล่นพนันภายในตลาดนัดหลังวัดไผ่เขียว ถนนแจ้งวัฒนะ14 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียวให้เช่าไม่มีเลขที่ ด้านหลังตลาดนัดวัดไผ่เขียว ตรงข้ามเคหะแจ้งวัฒนะ ภายในหมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์1 ด้านหน้ามีประตูเข้าออก ภายในเป็นห้องโถงใหญ่ ขนาด 60 ตารางเมตร พบโต๊ะพนันกำถั่ว มีนักพนันกำลังเล่นกำถั่ว 5 คน พนันไฮโล 4 คน รวม 9 คน เป็นชาย 8 ราย หญิง 1 รายกำลังเล่นพนันกำถั่วและไฮโล ทั้งนี้สามารถยึดของกลางเงินสด 7,000 บาท อุปกรณ์การเล่นพนัน ไม้เขี่ย และคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีการเปิดลักลอบเล่นการพนันภายในสถานที่ดังกล่าว ซึ่งพบว่าเมื่อเข้าไปภายในห้องโถง ยังมีประตูเชื่อมต่อไปยังอีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีกล้องวงจรปิดและโต๊ะพนันอีก 1 โต๊ะ แต่ไม่พบนักพนัน คาดว่านักพนันไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน
พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า สถานที่ดังกล่าว ตำรวจรับทราบมาตลอดว่าลักลอบเล่นพนัน โดยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เข้าตรวจค้นจับกุมมาครั้งหนึ่งแล้ว ได้นักพนัน 8 คน และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น แต่ไม่พบผู้กระทำผิด ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอกำลังทหารเพื่อไม่ต้องใช้หมายค้นและสามารถจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (กำถั่วและไฮโล) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และรวบรวมพยานหลักฐานและนักพนันทั้งหมดส่งให้กับ สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.มานะ ผกก.สน.ทุ่งสองห้องแล้ว ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยของตำรวจท้องที่แต่อย่างใด เนื่องจากตำรวจทราบเรื่องมาตลอด และพยายามเข้าตรวจค้นและทลายสถานที่ดังกล่าวหลายครั้งแล้ว ซึ่งก็มีทั้งจับได้ทันควันและไหวตัวทันหลบหนีไป และครั้งนี้ตำรวจท้องที่ก็เป็นผู้ประสานทหารให้ช่วยเข้าตรวจค้นและจับกุมเองด้วย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวเปิดลักลอบเล่นพนัน แต่ไม่ถึงขั้นเปิดเป็นบ่อน เนื่องด้วยจำนวนคนที่ไม่ได้จัดว่าเข้าข่ายขั้นบ่อน แต่เพื่อความสบายใจและกระจ่างอย่างเป็นทางการจะให้มีการตรวจสอบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เบื้องต้นยังไม่ถึงขึ้นต้องมีคำสั่งให้ตำรวจนายใดย้ายช่วยราชการแต่อย่างใด
