เปิดระเบียบราชทัณฑ์ คุมผู้ต้องขัง Admit รพ.ภายนอก จนท.ต้องถ่ายรูป รายงาน ผบ.คุกทุก 1 ชม.
จากกรณีกรมราชทัณฑ์ได้ย้ายตัวนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค มีอาการนอนไม่หลับแน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ ไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม มติชนออนไลน์ ได้ตรวจสอบระเบียบและข้อปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ พบว่า มีการกำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรือนจำ (Standard Operating Procedures : Sops) กระบวนงานควบคุมผู้ต้องขัง การควบคุมภายนอก เรื่อง : การกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่เวรควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัว ยังโรงพยาบาลภายนอก
ซึ่งระบุดังกล่าวระบุถึงข้อปฏิบัติการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่เวรควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอก กรณีการควบคุมผู้ต้องขังป่วยที่รักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอก (Admit) เป็นระเบียบดังที่ได้กำหนดขั้นตอนและวิธีการค่อนข้างละเอียดและรัดกุมพื่อป้องกันมิให้ผู้ต้องขังมีช่องโอกาสในการหลบหนี
โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมนั้น จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามที่ได้รับมอบหมาย
อย่างเคร่งครัด จะแบ่งหน้าที่กันเองในลักษณะผลัดกันเฝ้าไม่ได้ เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมจะต้องถ่ายภาพหรือวิดีโอคอลรายงานส่งให้กับผู้บังคับบัญชา เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ให้รายงานผ่านช่องทางไลน์หรือช่องทางการสื่อสารอื่นตามที่ผู้บัญชาการเรือนจำกำหนด
โดยมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้
–การส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอคอล เมื่อจัดส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอคอลแล้ว จะต้องพิมพ์ข้อมูลภายใต้ภาพถ่ายหรือวิดีโอคอล ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ชื่อผู้ต้องขัง วัน/เวลาที่รายงาน หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม หมายเลขโทรศัพท์ประจำ ward ที่ผู้ต้องขังป่วยรักษาตัวอยู่และ/หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์
– รายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้บังคับบัญชาทราบเป็นระยะ เช่น ทุก 1 ชั่วโมงหรือตามที่ผู้บัญชาการเรือนจำกำหนด โดยให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณาตามความเหมาะสมของสถานการณ์
– การถ่ายภาพหรือวิดีโอคอล เรือนจำ/ทัณฑสถาน จะต้องดำเนินการประสานกับโรงพยาบาลเพื่อขออนุญาตก่อน
– หากผู้ต้องขังป่วยได้รับการรักษาอยู่ในสถานที่ที่ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เช่น ห้องฉุกเฉินหรือห้องผู้ป่วยวิกฤต อาจพิจารณาถ่ายภาพหรือวิดีโอคอลจากสถานที่ ด้านนอกที่สามารถระบุได้ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ จะต้องปฏิบัติตามกฎ/ระเบียบของโรงพยาบาลเป็นลำดับต้น
สำหรับการแต่งกายเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมให้ใส่ชุดเครื่องแบบปฏิบัติงานภายนอกเรือนจำ (เสื้อยืดคอโปโลสีเลือดหมู)
-ให้เรือนจำ/ทัณฑสถานจัดให้มีสมุดบันทึกการตรวจ และมอบหมายให้ผู้อำนวยการส่วนหรือหัวหน้าฝ่ายควบคุมผู้ต้องขัง หรือเจ้าหน้าที่ ระดับผู้บังคับบัญชาที่ได้รับมอบหมายไปตรวจตราการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
ผู้ควบคุมอย่างสม่ำเสมอ
– ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ทางเรือนจำ/ทัณฑสถานจะต้องสามารถติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมได้ทันที
นอกจากนี้ยังให้เรือนจำ/ประสานกับหัวหน้าพยาบาลประจำตึกที่ผู้ต้องขังทำการรักษาตัวอยู่เพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยในการสอดส่องดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม หากพบว่าเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ สามารถแจ้งไปยังผู้บัญชาการเรือนจำทราบโดยทันที
อย่างก็ไรตามกรณีเจ้าหน้าที่ละเว้นหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือมีเหตุผู้ต้องขังหลบหนีจากการละเว้นหรือละเลยดังกล่าว จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาลงโทษวินัยทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้หากผู้ต้องขังป่วยที่แพทย์มีความเห็นว่า มีอาการป่วยหนักหรือผู้ป่วยขั้นวิกฤต ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและเป็นที่แน่ชัดว่าไม่มีโอกาสที่จะหลบหนี เช่น ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นต้น หากพัศดีผู้มีอำนาจสั่งเจ้าพนักงานเรือนจำ
หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ควบคุมแล้วแต่กรณี เห็นเป็นการจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องพันธนาการ ก็ให้ใช้เครื่องพันธนาการแก่ผู้ต้องขังรายนั้น เรือนจำ/ทัณฑสถาน อาจพิจารณาใช้เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เหมาะสมในการควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ควบคุม
อย่างไรก็ตาม กรณีของนายทักษิณนั้นระเบียบดังกล่าวสามารถถูกนำไปปฏิบัติจริงมากน้อยแค่ไหน ไม่มีใครทราบ ซึ่งกรมราชทัณฑ์เท่านั้นจะเป็นผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คืนแรกในเรือนจำ ‘ทักษิณ’ ป่วยกำเริบ หามส่งรพ.ตำรวจกลางดึก
- ราชทัณฑ์ แจงเหตุ ย้าย ‘ทักษิณ’ ไปรพ.ตำรวจ เครื่องมือไม่พร้อม-เฝ้าระวัง ‘โรคหัวใจ’