ศาลอุทธรณ์เเก้ลดโทษจำคุก ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตการ์ดเสื้อเเดง หมิ่นเบื้องสูง 4 ปี

ศาลอุทธรณ์เเก้ลดโทษจำคุก ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตการ์ดเสื้อเเดง หมิ่นเบื้องสูง 4 ปีเหตุให้การเป็นประโยชน์ ทนายยื่น 6 เเสนประกัน ศาลอาญาใต้ส่งศาลฎีกาพิจารณาตัวเข้าเรือนจำรอฟังคำสั่ง

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอาญากรุงเทพใต้ ฟ้องนายสมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (3)

คดีสืบเนื่องจากนายศรายุทธ สังวาลย์ทอง ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ดําเนินคดีกับนายสมบัติ จากการโพสต์ข้อความสาธารณะลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “สมบัติ ทองย้อย” จำนวน 3 ข้อความ โดยกล่าวหาว่า ข้อความเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(1) (3) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นสถาบันฯกับฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี

Advertisement

โดยวันนี้จำเลยเดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมทนายความ

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ได้รับทราบจากทีมทนายความที่ทำคดีนี้ว่า คดีนี้เดิมศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกกรรมละ 3 ปี 2 กรรมรวมเป็น 6 ปี แต่วันนี้ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้เพราะเห็นว่าจำเลยให้การเป็นประโยชน์เนื่องจากทางทนายความยื่นอุทธรณ์ไปว่าตัวจำเลยรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริงต้องได้ประโยชน์ในส่วนนี้ที่ให้การเป็นประโยชน์ แต่ศาลอุทธรณ์ก็ยังเห็นว่าจำเลยกระทำความผิดจริงที่ได้โพสต์ข้อความถึงสถาบันฯทางทนายความก็ได้ยื่นประกันตัวต่อระหว่างฎีกา ซึ่งขณะนี้ศาลอุทธรณ์ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาพิจารณาอยู่ โดยระหว่างนี้ตัวจำเลยจะต้องถูกควบคุมจนกว่าจะมีคำสั่งของศาลฎีกาลงมาว่าจะให้ประกันหรือไม่ ซึ่งทนายความได้เพิ่มหลักทรัพย์ไปอีก 3 แสนบาทรวมเป็นยื่นหลักทรัพย์ไป 6 แสนบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image