พ่อแม่เหยื่อฆ่าชิงไอโฟน ร้องพรรคอธิปไตยฯ ส่งทนายช่วยดูแลคดี

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ดร.ณพลเดช มณีลังกา โฆษกพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย (อปท.) ได้แถลงว่า น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย (อปท.) ได้รับการร้องเรียน จาก นายเจษฎา เหลืองแจ่ม และ นางนิราภรณ์ เหลืองแจ่ม บิดามารดาของนายวศิน เหลืองแจ่ม ผู้เสียชีวิต ในคดีชิงโทรศัพท์มือถือแล้วถูกฆาตกรรม ดังที่ปรากฎเป็นข่าว โดยคนร้ายใช้หมวกกันน๊อคทุบศีรษะทางด้านหลัง แล้วเข้าชิงโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ผู้เคราะห์ร้ายกดเงินจากเอทีเอ็ม ออกมาซื้อของจากเซเว่นให้เพื่อน และถูกฆาตกรรมกลางกรุงอย่างอุกอาจ โดยบิดามารดาของนายวศิน ขอให้พรรคฯ ช่วยติดตามการดำเนินคดีและขออย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย

เหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่ในโซเชียล ซึ่งการกระทำอย่างอุกอาจของผู้ต้องหา มีผลกระทบต่อจิตใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ โดยผู้ต้องหา เริ่มก่อคดี มาตั้งแต่ อายุ 13 ปี และได้ก่อคดีอย่างต่อเนื่อง เคยเข้าคุกถึง 8 ครั้ง หลังจากที่ก่อคดีฆาตกรรม นายวศิน ผู้ต้องหายังไม่สำนึก ยังก่อคดีจี้หญิงสาว อีก 2 ราย บริเวณ ถนนรามอินทรา

น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ กล่าวว่า “รู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่งที่คดีดังกล่าว เกี่ยวข้องกับลูกหลานอนาคตของชาติถึง 2 คน สำหรับเด็กผู้เสียชีวิตเป็นเด็กดี เรียนดี ทำกิจกรรมมหาลัย มีจิตอาสาช่วยสังคม การเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของครอบครัวของเราคนไทย และถือเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องเข้ามาเยียวยาช่วยเหลือครอบครัว และรับผิดชอบที่ไม่สามารถปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพได้

สำหรับเด็กซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ก่อคดีตั้งแต่อายุแค่ 13 ปี และได้กระทำความผิดมามากมายหลายครั้ง บางท่านมองว่าเป็นความผิดของเด็ก พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือ สังคม แต่ถ้ามองให้ดีแล้ว ถือเป็นความผิดของรัฐแต่เริ่มแรก เพราะรัฐมีหน้าที่ต้องปลูกฝังคุณธรรม สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ครอบครัว ตั้งแต่เด็กเกิดมา ต้องเกิดในครอบครัวที่ดี มีฐานะที่มั่นคง เมื่อเด็กโตขึ้นต้องได้รับการศึกษาเรียนรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม การถอดวิชาพระพุทธศาสนาออกจากหลักสูตรการศึกษา มีส่วนทำให้เยาวชนไม่รู้จักดีรู้จักชั่ว ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจเสื่อมถอย ลูกหลานของเรา กลายเป็นอาชญากร ไม่มีอาชีพ ต้องใช้วิธีชิง วิ่งราว จี้ ปล้น เพื่อความอยู่รอด

Advertisement

จากเหตุการณ์นี้ จะตัองมีการลงโทษให้หลาบจำ และไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง รวมทั้งมีการวางมาตรการทางสังคมในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และติดตาม ขอย้ำว่าพรรคฯ นอกจากจะให้ความสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนแล้ว ยังให้ความสำคัญต่อการปลูกฝังคุณธรรมให้กับเยาวชนตั้งแต่เกิด เข้าเรียน และเติบใหญ่ในสังคม และเชื่อว่า “สำนึกรู้ดีรู้ชั่ว” และ “หิริโอตตัปปะ” หรือ “ความเกรงกลัวและละอายต่อบาป” จะช่วยแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและหลายๆ ปัญหาของชาติในระยะยาว

ทั้งนี้ในเบื้องต้น น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ ได้มอบหมายให้ นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล หัวหน้าคณะทำงานด้านกฏหมายของพรรคฯ ติดตามดูแลคดีอย่างใกล้ชิดต่อไป

IMG_2205

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image