อนันต์ชัย รับ เป็นทนายให้ทีม “บิ๊กโจ๊ก” เล็งเอาผิดคนเปิดข้อมูลบัญชี อัด “อัจฉริยะ” โหน ด้าน “พ.ต.อ.ภาคภูมิ” เตรียมขอโทษนาย
เมื่อวันที่ 27 กันยายน รายการโหนกระแส ที่ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ทางช่อง 3 เกาะติดเหตุการณ์ตร.ไซเบอร์นำชุดคอมมานโด นำหมายค้นขอเข้าตรวจค้นบ้าน “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผบ.ตร. เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับหลังมีความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จนเรื่องราวบานปลายไปอีกหลายๆ เรื่อง โยงไปถึงลูกน้องบิ๊กโจ๊กกับบัญชีม้า โดยวันนี้สัมภาษณ์ “พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาพร้อม อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกระดูกเหล็ก ที่มาเป็นทนายให้บิ๊กโจ๊ก
ไปไงมาไง?
อนันต์ชัย : วันจันทร์ ท่านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลโทรมาหาผม แล้วบอกว่าผมโจ๊ก ผมก็งงว่าโจ๊กไหน เขาบอกว่าผมบิ๊กโจ๊ก อยากให้ผมเป็นทนาย ผมก็เลยบอกว่าท่านรู้เบอร์ผมได้ไง เขาบอกผู้ใหญ่บอกมา วันนั้นผมมีคดีของคุณชูวิทย์กับทนายตั้ม เสร็จศาลผมก็โทรคุยกับเขา ก็นัดกันเมื่อคืน เขาก็ชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของเขาให้ผมฟัง เราฟังดูประมวลหลายอย่าง ก็เป็นไปได้ ก่อนผมรับเป็นทนายให้ท่านสุรเชษฐ์ มีทั้งคนคัดค้านและเชียร์ คนคัดค้านจะเยอะกว่า เนื่องจากพอเป็นเรื่องแบบนี้สื่อโซเชียลออกไป เขาก็คิดว่าน่าจะเป็นจริง เพราะสื่อโซเชียลเหมือนเป็นการโปรโมตให้คนกระทำความผิดหรือเป็นคนดีได้ แต่คนเชียร์เขามองอีกมุมนึง เขาบอกว่าเราในฐานะเป็นทนายความ เมื่อโจทก์มาหาเรา ไม่ว่าจะเป็นโจทก์ จำเลย หรือผู้ต้องหา เราก็ต้องพิจารณาดูว่าสมควรเป็นทนายให้เขาได้มั้ย ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูกต้องเอาสิ่งที่คว่ำอยู่หงายขึ้นมา เพื่อให้สาธารณชนทราบ ผมประมวลแล้วว่าเรื่องนี้เราต้องทำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้คนๆ นึงซึ่งไม่มีความผิดเกิดความเสียหายได้ เช่น ท่านสุรเชษฐ์ หักพาล ผลงานท่านก็เยอะแยะมากมาย แต่พอมีเรื่องนิดนึง คุณคิดว่าท่านจะเป็นโจรผู้ร้ายเหรอ การทำงานของทนายความจึงเหมือนเหรียญสองด้าน บวกและลบ แต่ว่าเราไม่ได้ทำให้ดำกลายเป็นขาว เราทำความจริงให้ปรากฏเท่านั้นเอง จึงรับทำคดีนี้ พอรุ่งเช้าก็เปิดตัวเลย
ฝั่งพี่เปี๊ยกมาดูแลส่วนไหน คดีเฉพาะบิ๊กโจ๊กหรือทั้งทีม?
อนันต์ชัย : ทั้งทีมเลย รวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชา ดูหมด
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ไปเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าเขามีการเช็กมาแล้ว พี่ได้พูดคุยกันหรือยัง?
อนันต์ชัย : หลักมีอยู่ว่าเอกสารหลักฐานที่พูดมาทั้งหมด คุณได้มาได้ยังไง เพราะทั้งหมดอยู่ในการสอบสวน คุณเปิดบัญชีคนนั้นคนนี้ นี่เป็นการเปิดเผยความลับของทางราชการ ที่สำคัญเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ก็มีความผิดตามพรบ.ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ ฉะนั้นการเปิดเผยสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา คนสอบสวนต้องรับผิดชอบ เส้นทางการเงินจะจริงหรือไม่จริง ผมยังไม่ได้สอบ ยังไม่ได้คุยกับท่านภาคภูมิ แต่วันนี้จะคุย อยากถามกลับไปที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนไซเบอร์ว่าข้อมูลพวกนี้หลุดมาได้ยังไง ต้องถามพี่แต้ม ว่าข้อมุลหลุดแบบนี้มันผิดกฎหมายมั้ย มันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลหมดเลย มันทำไม่ได้หรอก
เช่นชื่อคนเหรอ?
อนันต์ชัย : หน้าเขาเต็มๆ แบบนี้คุณเปิดไม่ได้นะ พุฒิพงษ์ ต้องเบลอ
พี่แต้มมองไง?
พล.ต.ต.วิชัย : ข้อมูลตรงนี้ใครเป็นคนเอามาออก ไซเบอร์หรือสื่อมวลชน หรือโซเชียลเอามาเขียนเอง อาจได้ข้อมูลเรื่องตัวเลข ตัวเงินมา แต่ภาพมาจากการสอบสวนหรือเปล่า ถ้ามันไม่ใช่ ก็อีกส่วนนึง แต่ถ้าใช่ก็เป็นอย่างพี่อนันต์ชัยพูด
อนันต์ชัย : รูปภาพไม่ใช่สาระ สาระคนเปิดเผยคนแรก แล้วสื่อมวลชนเอาไปเผยแพร่ ต้นกำเนิดเกิดจากใคร ต้องไปดูจากตรงนั้น
ตามเจอมั้ยแบบนี้?
อนันต์ชัย : เจออยู่แล้ว เราตั้งวอรูมขึ้นมา มีการสัมภาษณ์ มีการให้ข่าว เราให้มีการถอดเทปทุกชิ้น อันไหนหมิ่นเราก็ดำเนินคดี
ผมต้องขึ้นศาลอีกมั้ย?
อนันต์ชัย : ไม่จำเป็นหรอก ผมไม่ทำร้ายสื่ออยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาเสียหาย เพราะสังคมตราหน้าเขาเป็นเว็บไซต์พนัน
ตร.บอกว่าไปยึดโทรศัพท์จากมินนี่แล้วไปตรวจสอบ ถึงพบเส้นทางต่างๆ นานา และนำมาซึ่งเรื่องราววันนี้ ท่านภาคภูมิล่าสุดประกันตัวแล้วเรียบร้อย และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อของเราด้วย เปิดเสียงคุณภาคภูมิ?
ภาคภูมิ : เดี๋ยวจะพิจารณาให้ข่าว เพราะคนเกี่ยวข้องจะทยอยมาให้ข้อมูลเพราะข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้นทั้งหมด กับมินนี่รู้จักกัน ไม่ได้ปฏิเสธตรงนั้น มีความใกล้ชิดกัน แต่ไม่ได้พบเจอกันบ่อย เขาทำอะไรผมไม่เกี่ยว ให้เขาไปสืบดูได้เลย ที่เขาไปพูดว่าผมไปถือบัญชีม้าพุฒิพงษ์ ครรชิต จะบอกว่าไม่มี ชีวิตผมมีบัญชีเดียว กับมินนี่รู้จักไม่นาน ผมรู้จักคุณแม่เขา ท่านบิ๊กโจ๊กไม่น่ารู้จักมินนี่ เดี๋ยวต้องไปกราบขอโทษท่านที่ทำให้ท่านเสียหาย พอข่าวออกมาตรงนี้ครอบครัวผมก็เสียหาย ครอบครัวได้รับผลกระทบ คุณพ่อคุณแม่หรือภรรยา ลูก ทุกคนก็ได้รับความกระทบจากเรื่องนี้ทั้งหมด แต่สิ่งไหนที่ผมทำผมรับผิดชอบหมด ไม่ต้องกังวล ถ้าสิ่งไหนไม่ได้ทำผมก็ต่อสู้ไปตามกระบวนการ
ท่านก็ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการ พี่ก็จะเป็นทนายให้ท่านภาคภูมิ?
อนันต์ชัย : เดี๋ยวจบรายการก็เจอกันทั้ง 8 คน ไม่ได้หนักใจ คนอื่นหนักกว่านี้อีก นี่มันเด็กๆ ผมทำมาตั้งแต่สมัยท่านเสรี หนักกว่านี้อีก อันนี้ไม่ได้เกินความคาดหมาย พยานหลักฐานที่ปรากฏในโซเชียล เวลาอยู่ในศาลอาจไม่ได้เป็นไปดังที่ปรากฎอยู่โซเชียล ดังนั้นการเปิดพยานหลักฐานโดยไม่มีมูลความจริงก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยเฉพาะบางส่วนเป็นเรื่องส่วนตัว การที่คุณไปพูด พาดพิงให้คนอื่นเสียหาย ชื่อเสียงเกียรติยศมันกลับคืนมาไม่ได้ ต้องระวัง
วันนี้บิ๊กโจ๊กอาจฟ้องกลับท่านไตรรงค์ด้วย?
พล.ต.ต.วิชัย : ก็เป็นสิทธิ์อำนาจ เขามองว่าเขาถูกกระทำ ถ้าเขาคิดว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง การกระทำโดยมิชอบ ทุกคนก็สามารถปกป้องสิทธิ์ตัวเองได้ สามารถร้องเรียน ฟ้องร้องได้เช่นเดียวกัน อีกมุมนึงทางผู้ปฏิบัติเขาก็ต้องแจ้งว่าการกระทำหน้าที่ของเขาถูกต้องตามกฎหมาย ตามระเบียบข้อบังคับ ก็ต้องมาดูกันว่าอันไหนตรงไม่ตรง อันไหนจริงไม่จริง ส่วนเรื่องคดีความก็ว่ากันไปอีก ไปสู่ศาลใครเกี่ยวข้องยังไงก็ว่ากันไป เพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับสมคบ ฟอกเงิน ก็ต้องเกี่ยวกับทุกคนที่มีชื่อหลักฐานปรากฎ ก็เป็นหน้าที่ไซเบอร์เขาไป แยกกัน
ตอนนี้บิ๊กโจ๊กจะไปร้องว่าการยื่นขอศาลออกหมาย เป็นการขอยื่นโดยไม่เป็นธรรมแก่ท่าน พี่มองยังไง?
อนันต์ชัย : คนที่ไปออกหมายถ้าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตร. หรือข้าราชการ เราก็ต้องไปขอศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หรือภูมิภาคนั้นๆ แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ก็ต้องไปขอที่ศาลอาญา หรือศาลจังหวัดก็แล้วแต่กรณี กรณีนี้ปรากฎว่ามีนายตำรวจซึ่งมียศตำแหน่งเขาต้องระบุและในการขอหมายโดยหลักต้องไปขอที่ศาลอาญาทุจริต ไม่ใช่ขอที่ศาลอาญา เมื่อขอศาลอาญาทุจริต ถ้าจะขอหมายเขาจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ในฐานะที่เราทำอาญาทุจริตมาถึงจะออกหมายได้ แต่ในเมื่อคุณมาขอหมายที่ศาลอาญา หรือศาลอาญากรุงเทพใต้ ปรากฏว่าบุคคลที่ไปขอหมายเหมือนไปหลอกศาล เป็นพ.ต.อ.อนันต์ชัย ไชยเดช ก็ต้องใส่ยศ ศาลก็จะบอกให้ไปศาลอาญาทุจริต การไปออกหมายคุณรู้อยู่แล้วว่าคนที่คุณออกหมายเป็นเจ้าพนักงานตร. เขาบอกว่าเขาไม่รู้ ไม่รู้ได้ไง คุณเป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน คุณรู้สถานภาพของคนๆ นั้น เป็นไปไม่ได้ครับ พนักงานสอบสวนต้องรู้สถานภาพแต่ละคนว่าเขามีอาชีพอะไร ในหมายต้องระบุอาชีพด้วย แต่คุณไม่ระบุ แสดงว่าคุณไปหลอกศาล ปกติถ้าเป็นหมายตร.เขาจะออกหมายเรียกมาก่อน เมื่อมีการไปออกหมายกับนายตร.โดยไม่ระบุ เท่ากับหลอกศาลอาญากรุงเทพใต้ เพราะการพิจารณาของแต่ละศาล ความเคี่ยวเข้มไม่เหมือนกัน เมื่อเช้าท่านสุรเชษฐ์ก็พูดเรื่องนี้ว่าสาเหตุที่ไปร้องเพราะไม่ได้ใส่ยศตำแหน่ง แต่ผมไม่ได้เป็นทนายในจุดนั้น
พี่แต้มมองยังไง?
พล.ต.ต.วิชัย : เวลาเราไปขอศาลเพื่อออกหมายจับบุคคลหรือค้นบ้าน เขาจะมีบรรยายพฤติกรรมแห่งคดีว่าคนนั้นกระทำความผิดต่างๆ ต้องไปดูในพฤติกรรมอันนั้นว่าเขาใส่ยศใส่อะไรมั้ย ทำความผิดอะไรในพฤติกรรม หรือใช้คำว่านาย ต้องไปดูตรงนี้ด้วย แต่ตอนออกชื่อออกอะไรต่างๆ ในฐานะผมเคยเป็นพนักงานสอบสวน ศาลจะพิจารณาพฤติกรรมแห่งคดีเป็นหลัก ว่าเกี่ยวข้องมั้ย ถึงจะออกหมายจับหมายค้นอะไรต่างๆ แต่พี่อนันต์ชัยพูดตรงมาก คือเรื่องขอหมายศาลไหน การไปขอศาลอาญาต้องดูว่าเขาขอหมายค้นหมายจับในข้อหาเรื่องการทุจริตหรือเกี่ยวพับกับเว็บพนันบอล ถ้าเว็บพนันบอลอาจเป็นศาลอาญา แต่ถ้าแจ้ง 157 ประพฤติไม่ชอบ ก็ต้องไปศาลทุจริต ก็ต้องลองดูพฤติกรรม และคำบรรยาย และข้อหาที่ไปขอ
นักเรียนในห้องในเฟซบุ๊กส่งมาว่าเป็นงานเร่งหรือเปล่า?
อนันต์ชัย : ผมมองว่าใช่ เพราะจะมีการแต่งตั้งผบ.ตร.แล้ว อีก 2-3 วันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ในมุมมองนักกฎหมาย เป็นทนายท่านเสรี ซึ่งตอนที่ท่านตกระกำลำบากมา เหตุการณ์พวกนี้ผมเคยเจอมาแล้ว ผมเป็นทนายของท่านตั้งแต่เป็นผู้ช่วยผบ.ตร. จเร จนท่านประจำสำนักนายกฯ จนท่านถูกให้ออกจากราชการ และกลับคืนมาเพราะไม่ผิด เหตุการณ์เร่งพวกนี้ผมผ่านมาหมดแล้ว ผมบอกท่านสุรเชษฐ์แล้วว่าโจ๊กเรื่องพวกนี้ไม่ต้องมาบรรยายพี่หรอก พี่ผ่านมาหมดแล้ว มันเป็นการดิสเครดิต ผมว่าไม่ใช่ตร.มืออาชีพ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นตร. ผู้บังคับบัญชาคุณพักอยู่ไหนคุณจะไม่รู้เลยเหรอ เป็นไปไม่ได้หรอก
พล.ต.ท.ไตรรงค์ให้สัมภาษณ์ว่าตัวท่านเองก็ไม่ได้กังวลใจเพราะมีข่าวว่าจะฟ้องไปทางท่านด้วย ท่านบอกว่าไม่กังวลที่จะถูกฟ้องกลับ เพราะท่านทำงานตรงไปตรงมา มีคนถามด้วยซ้ำว่าเป็นตร.ทำไมไม่คุยกันก่อน ปรึกษากันได้ ท่านบอกว่างั้นก็ประพฤติมิชอบสิ คุยกันก่อนไม่ถูกต้อง มองยังไง?
อนันต์ชัย : ต้องว่ากันตามนั้น ผมเป็นทนายมา 38 ปีเจอมาไม่รู้เท่าไหร่ ตร.ก็ต้องพูดโลกสวยแบบนี้แหละ ตร.เวลาออกสื่อพูดซะสวยหรู แต่เวลาเจอในศาล เจอซักทีนึงนั่งบิดแล้วบิดอีก ต้องไปเจอกันในศาลดีกว่าแล้วจะรู้
พี่แต้มมองยังไง?
พล.ต.ต.วิชัย : บิ๊กโจ๊กก็ต้องใช้สิทธิ์ของเขา ทางท่านผู้บัญชาการก็ต้องใช้สิทธิ์ของท่าน โดยอ้างการปฏิบัติหน้าที่ว่าชอบด้วยกฎหมายก็ต้องไปว่ากันด้วยพยานหลักฐาน ใครผิดก็ว่ากันตามผิด ถูกก็ต้องถูก เป็นหลักการ ท่านก็มีสิทธิ์แก้ตัว เพราะเรายังไม่รู้ว่าท่านทำงานอะไรบ้าง ขั้นตอนการทำงานท่านอาจตรงไปตรงมา เพียงแต่เราคาดการณ์ไว้ว่าสองฝ่ายจะสู้กันอย่างไร
เรื่องบ้านไม่ใช่ชื่อบิ๊กโจ๊กจะเป็นประเด็นมั้ย?
อนันต์ชัย : มันไม่มีประเด็นหรอก เหมือนกับเรื่องบ้านก็ดี รูปถ่ายก็ดี เรื่องร้องเพลงก็ดี เป็นเรื่องทำนองเดียวกัน เหมือนคุณหนุ่มไปไหนเขาขอถ่ายรูป เวลาเขาขอถ่ายรูป คุณหนุ่มจะรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร ก็ไม่รู้ เมื่อไม่รู้ปั๊บ แล้วคนนั้นเกิดเป็นอาชญากรตัวสำคัญของโลก เป็นนักค้ายาเสพติด ที่เขามาขอถ่ายรูป คุณชั่วด้วยเหรอ
โดนใจผมเหลือเกิน ผมโดนเรื่องนี้ ผมไปถ่ายรูปกับใครก็ไม่ได้ ไปถ่ายรูปกับหนุ่มผมยาว เขาไปหาว่าไอ้หนุ่มผมยาวเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไอ้กรรชัยต้องเป็นหัวหน้าตัวตึงโน่นนี่ ไปเล่นผมเป็นปีทุกวัน แต่ผมไม่สน ผมก็ฟ้องแม่-ทุกวัน?
อนันต์ชัย : (หัวเราะ) เรื่องการร้องเพลง ที่มีการโพสต์การร้องเพลง ผมก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะผมถือว่าการร้องเพลงหรือคุยกับใครสักคน โดยที่เราจะรู้หรือไม่รู้เป็นเรื่องส่วนตัว แล้วเอามาเป็นประเด็น อย่างคุณเอ ศุภชัย ถ่ายรูปคู่คุณมินนี่ ก็ไปลากเขาลงมาตบ ซึ่งไม่เกี่ยวกับประเด็น อย่างที่บอกว่าคุณหนุ่มไปถ่ายรูปคู่อาชญากรระดับโลก คุณหนุ่มผิดด้วยเหรอ เรื่องถ่ายรูป ร้องเพลง ความใกล้ชิดสนิทสนม หรือแฟนคลับผมเอาแขนมาเกี่ยวผม ถ้าเมียผมเห็นเขาหึงตายเลย แต่นี่เขาบอกไม่เป็นไร เป็นแฟนคลับ แล้วบ้านที่พูดถึงประเด็นนี้ การที่เขาอยู่บ้านเช่าหรือไม่เช่าหรืออยู่ฟรี ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นประเด็นนะ เพราะเขาไม่ได้ทุจริตต่อหน้าที่ ไอ้คนไปลากเขามาระวังให้ดี เดี๋ยวคุณจะโดน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เตือนไว้ก่อน
เรื่องพี่ต่อ ท่านสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตร.สันติบาล ท่านมีการทำหนังสือข้อเสนอแนะไปยื่นกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เกี่ยวกับการแต่งตั้งผบ.ตร. เกี่ยวกับ 4 ข้อเสนอ หนึ่งในนั้นคือเห็นควรให้แต่งตั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลโอนไปรับราชการสำนักนายกรัฐมนตรี 1 ปี นี่คือเด้งนั่นแหละ?
อนันต์ชัย : สมัยผมเป็นทนายท่านเสรีพิศุทธ์ ท่านถูกมรสุมทางการเมือง และถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี สุดท้ายท่านได้ฟ้องร้องท่านสมัคร สุนทรเวชเป็นคดี แต่น่าเสียดาย คดีนี้ท่านสมัครเสียชีวิตไปเสียก่อน ดังนั้นการที่จะย้ายใครต่อใคร ย้ายมั่วซั่วทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าพูดแนวลูกทุ่งก่อน นั่นความคิดของเขา แต่ส่วนของกฎหมายกฎระเบียบสำนักงานตร.แห่งชาติเขาไม่เปิดโอกาสให้หรอกครับ
พี่แต้มมองยังไง?
พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าพูดแบบเพราะๆ คุณเป็นใคร ถ้าพูดสมัยกรุงศรีอยุธยา มึงเป็นใคร การที่จะพูด จะทำอะไรตามข้อเสนอ 3-4 ข้อ มันมีกฎหมายรองรับมั้ย มันไม่มีกฎหมายรองรับจะไปทำได้ยังไง แล้วคำพูดเหมือนคณะปฏิวัติ ต้องทำทันที มันได้ยังไง (หัวเราะ)
พี่ต่อเขาบอกไม่ได้อะไรนะ เหมือนไปเสนอแนะ ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้น?
พล.ต.ต.วิชัย : ข้อแรกจะเอาท่านสุรเชษฐ์ หักพาลไปอยู่สำนักนายก การย้ายใครคนใดคนหนึ่งถ้าเขาไม่ยินยอม ติดคุกมาหลายคนแล้วนะ ย้ายท่านสุรเชษฐ์ไปไม่ได้
เขาไปร้องแบบนี้ไม่ได้เหรอ?
พล.ต.ต.วิชัย : ถามว่าเขาไปร้องเขาได้เสียอะไร แต่เขาบอกว่าเขาเสนอแนะ แต่เพียงเสนอแนะผ่านสื่อมวลชน เราก็พูดว่าถ้าเป็นตัวตน การเสนอแนะ คุณเสนอแนะแบบชาวบ้านเสนอได้ แต่ถ้าทำหนังสือต้องให้ทำทันที 1 2 3 มันเหมือนเป็นคำสั่ง ข้อหนึ่งเห็นควรแต่งตั้งท่านรอยเป็นอันดับที่ 1 ผบ.ตร. เขาไม่รู้เหรอว่าการคัดเลือกผบ.ตร.มันต้องผ่านคณะกรรมการ กตร. โดยนายกฯ เป็นคนเสนอชื่อ มันไม่ใช่แต่งตั้งกันง่ายๆ แล้วประเมินก็ไม่มี อย่างนี้ก็เปลี่ยนผบ.ตร.กันทุก 6 เดือนสิ ถ้าต้องทำแบบนี้ แล้วคุณจะเอาตัวไหนมาวัด งานตร.ไม่เหมือนงานบริษัท ตร.มันเป็นเรื่องคดี บางคนเป็นผบ.ตร.ไม่มีคดีใหญ่ก็ได้ บางคนเป็นผบ.ตร. มีคดีให้ทำทุกวันก็ได้ มันประเมินไม่ได้ สองพี่อนันต์ชัยพูดไปแล้ว ทำไม่ได้ เพราะถ้าทำได้ ท่านสุรเชษฐ์ ต้องยินยอม สมัครใจไป แล้วมีเหตุผลอะไรต้องเอาเขาไป เอาไปเพื่อ! แยกย้ายกันเหรอ ไม่ได้ ท่านสุรเชษฐ์ก็ทำงานมีผลงาน จะเอาไปเก็บไว้ทำไม เอาเหตุผลอะไรมาพูด มันไม่ได้ ติดคุกกันมาเยอะแล้ว
อนันต์ชัย : อย่าทำครับ ไม่ควรอย่างยิ่ง
ข้อสี่?
พล.ต.ต.วิชัย : จะให้ท่านต่อศักดิ์ ไปเป็นเลขาฯ สภาทนายความมั่นคงแห่งชาติ เหมือนท่านสุรเชษฐ์ จะเอาเขาไปได้ไง ต้องสมัครใจ การไปคิดยังไงว่าท่านต่อศักดิ์จะเหมาะสม ข้าราชการอื่นทำตรงนี้ก็ได้ ที่พูดมาไม่มีกฎหมายรองรับ ทำไม่ได้ จะพูดยังไงดี (หัวเราะ) ให้อนันต์ชัยพูดดีกว่า
อนันต์ชัย : ผมดูว่ามันไม่มีกฎหมายรองรับ พูดเอามันส์เข้าว่า คนแต่งตั้งไปก็ซวย นายกฯ ก็ซวย นายกฯ อาจถูกฟ้องร้องได้ การเสนอแบบนี้เสนอเพื่อให้คนอื่นมีความทุกข์ จริงๆ ไม่ควร ให้ความคิดเห็นได้
พล.ต.ต.วิชัย : ทำไมต้องด่วนที่สุด ด่วนที่สุดมันเป็นหนังสือระบบราชการที่ใช้คำว่าด่วนที่ลับ ลับมาก อย่างนี้ท่านมีฐานะอะไร ท่านเป็นข้าราชการมั้ยก็ไม่ได้เป็น แล้วจะทำด่วนที่สุดเพื่ออะไร ให้คำเสนอแนะได้
อนันต์ชัย : เขาเรียกโหนกระแสเปล่า (หัวเราะ)
มุมคุณอัจฉริยะ ที่บอกว่ามีเส้นทางการเงินไปตรวจสอบแล้ว พบมีบัญชีม้าตร.หลายนายที่ลูกน้องบิ๊กโจ๊กถือเอาไว้ และมีการเชื่อมโยงมา แล้วฝั่งบิ๊กโจ๊กเอง ก็บอกว่าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องลูกน้อง ท่านเองก็ไม่ทราบว่าทำไมลูกน้องถึงมีบัญชีม้า แล้วเอาเงินไปกระจายจากบัญชีม้าไปสู่คนโน้นคนนี้คนนั้น เพราะบิ๊กโจ๊กเวลาให้เองก็ให้เป็นเงินที่ถูกต้องไปเพื่อให้ลูกน้องไปทำงาน แล้วลูกน้องกลายเป็นใช้บัญชีม้ากระจายเงินไป คุณอัจฉริยะบอกว่าบิ๊กโจ๊กจะไม่รู้ได้ยังไง?
อนันต์ชัย : ผมกับท่านอัจฉริยะคุยกันดีกันนะครับ ไม่ได้เป็นศัตรูกัน แต่ ณ วันนี้เราต่างคนต่างทำหน้าที่ ผมทำหน้าที่ในฐานะเป็นทนายความ มีวิชาชีพ ซึ่งท่านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้มอบความไว้วางใจให้ ฉะนั้นส่วนนี้ของผมก็คือตรงนี้ ส่วนท่านอัจฉริยะ ท่านบอกว่าเป็นหน้าที่พลเมืองสอบ ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมฉงนสนเท่มาก คือท่านเป็นบุคคลธรรมดา แต่ข้อมูลที่ท่านออกมาเผยแผ่ต่อสาธารณชน นั่นเป็นข้อมูลทางราชการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานสืบสวนสอบสวนหมดเลย ผมก็เลยสงสัยว่าท่านได้แต่ใดมา ส่วนนี้จะจริงหรือเท็จไม่ควรเอามาเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน เราไปว่ากันในกระบวนการ ถ้าหากท่านสุรเชษฐ์หรือผู้ใต้บังคับบัญชา คนไหนกระทำการไม่ถูกไม่ควร ก็ไปว่ากันในกระบวนการ คนทำผิดก็ต้องได้รับโทษ แต่ถ้าเขาไม่ผิดก็ต้องปล่อยเขาไป ยกฟ้องไป การเอามาเปิดเผยส่วนหนึ่งเหมือนเป็นการประจาน เพราะสังคมโซเชียลเวลาไปแล้วมันไปเลย แต่เวลาเขาถูกหรือเขาถูกยกฟ้อง ไม่มีใครแก้ความบริสุทธิ์ให้เขานะครับ เหมือนท่านภาคภูมิบอกเมื่อสักครู่ ว่า ณ วันนี้ตัวท่านก็ได้รับความเดือดร้อน ผมก็อยากบอกกับพี่หนุ่มและท่านอัจฉริยะว่าเราต่างคนต่างทำหน้าที่กัน ส่วนท่านอัจฉริยะถ้ามีหลักฐานก็มอบให้พนักงานสอบสวนและสู้กันไปตามกระบวนการแค่นั้นเอง ไม่มีอะไร เพราะเราก็ยังดีกัน ทักกัน ไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้ว
พี่แต้มมองนัยยะเรื่องการแต่งตั้งผบ.ตร.คิดว่าจะมีการแต่งตั้งมั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมว่าถ้าวันนี้ไม่มีการแต่งตั้งผบ.ตร. อันดับแรกเลย จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรมาก และเสียหายต่อตัวนายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล และเสียหายต่อภาพลักษณ์รัฐบาลในการบริหารประเทศ เพราะตร.ไปเกี่ยวกับทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ถ้าคุณไม่มีหัว การบริหารองค์กรจะไปไม่ได้เลย และที่สำคัญที่สุดจะให้ตร.ชั้นล่างๆ เกียร์ว่าง พอเกียร์ว่างจะกระทบพี่น้องประชาชนทันที ถ้าปล่อยยืดเยื้อยาวไป ไม่แต่งตั้งสักที ปัญหาที่มีทุกวันนี้ก็ไม่จบ แต่ถ้าตัดสินใจแต่งตั้งไป ยึดหลักกฎหมาย ผมว่าองค์กรตร.ก็จบ แล้วให้คนมาเป็นผบ.ตร.มาปรับปรุงแก้ไข ทำให้ความรักความสามัคคี ดูแลสวัสดิการตร. ทำเพื่อประชาชน เดี๋ยวภาพมันก็กลับมา แต่ถ้าปล่อยเนิ่นนาน มีพังกับพัง สองที่เป็นห่วง นายกฯ มีการแต่งตั้งท่านปลัดฉิ่ง ท่านวินัย ทองสอง เป็นคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง การแต่งตั้งแต่งตั้งได้ แต่เวลาแต่งตั้งได้แล้ว ชี้เหตุผิดถูกคนถูกสอบสวน ถ้าถูกมีปัญหาทันที ผิดมีปัญหาทันที เพราะคุณทั้งสองคนต้องไปนั่งในคณะกรรมการในการคัดเลือกผบ.ตร. นี่เป็นส่วนได้เสียทันที ตามกฎหมายวิธีทางปกครอง มาตรา 16 ไม่ได้เลย ถือว่ามีส่วนได้เสีย จะไปนั่งพิจารณาแต่งตั้งผบ.ตร.ไม่ได้ ทั้งสองคนจะมีปัญหามาก กฎหมายมาตรา 16 ไปดูเลย เขาเขียนไว้เลย เดี๋ยวจะมีปัญหาในการเป็นคณะกรรมการ ถ้าไม่รีบแก้ไข
ทั้งสองท่านไม่ควรไปนั่งตำแหน่งสืบสวนบิ๊กโจ๊กต้องเป็นคนอื่น?
พล.ต.ต.วิชัย : ใช่ ต้องเป็นคนอื่น
อนันต์ชัย : การสอบสวนถ้าเป็นกรรมการจะมีส่วนได้เสียไม่ได้เลย กฎหมายไม่ให้เลย
แต่ท่านนายกฯ เศรษฐาท่านตั้งไปแล้ว?
พล.ต.ต.วิชัย : สองคนนี้ต้องไปนั่งยกมือนะ ในการเลือกผบ. ผมว่าต้องรีบแก้ไข ถ้าเกิดแต่งตั้งไปเดี๋ยวฟ้องร้องอีกนะ ยุ่งอีก ไม่จบอีก ผมเป็นห่วงท่านนายกฯ เป็นห่วงคณะกรรมการที่จะไปลงคะแนน สามถ้ามีผลออกมาแล้ว มีคนไม่พอใจก็ฟ้องกันอีก ยุ่งกันอีก ก็แก้ไขซะอย่าให้มีตรงนี้ สั่งยกเลิกให้แต่งตั้งคนใหม่
อนันต์ชัย : เดี๋ยวก็ต้องผ่านมือผมอีก (หัวเราะ)
ไม่มีใครบอกท่านนายกฯ เหรอ?
พล.ต.ต.วิชัย : อาจจะลืม และคิดว่าไม่มีปัญหา ก็อยากให้เอาไปพิจารณา ผมอาจผิดก็ได้
อนันต์ชัย : พี่ก็ถ่อมตน จริงๆ มันก็ไม่ได้
สิ่งที่พี่อัจฉริยะให้สัมภาษณ์ไป พี่ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง?
อนันต์ชัย : พูดในฐานะเป็นนักกฎหมายและทนายความ เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้าราชการ ปอท.กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ ข้อมูลต่างๆ เป็นความลับทางราชการ แต่ ณ วันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าท่านอัจฉริยะ ท่านทำงานในตำแหน่งราชการส่วนไหน ท่านแถลงเป็นฉากๆ คนนั้นอย่างนั้น คนนั้นอย่างนี้ คนนั้นผิดอย่างนั้นอย่างนี้ กลายเป็นว่าเป็นโฆษก สตช. หรืออย่างไร หน่วยราชการยังไม่แถลงเลย แต่นี่ท่านมาแถลงว่าต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้และต้องแจ้งให้ผมทราบ เออ เป็นใคร ผมไม่เข้าใจ ท่านโจ๊กต้องแถลงให้เขาทราบ หรือแจ้งให้เขาทราบหรือว่าอย่างไร ท่านโจ๊กเป็นข้าราชการเป็นถึงรองผบ.ตร. ข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนเขาก็มีศักดิ์มีศรี ทำไมต้องแจ้งให้คุณทราบ คุณเป็นใคร แต่สิ่งที่คุณแถลงมา มันเป็นการแถลงหน้าโซเชียล แต่สิ่งที่จะเกิดบนศาลมันอีกเรื่องนึง อันนี้เป็นการกล่าวหาแต่ไม่ได้ระบุชื่อไง ซึ่งเดี๋ยวเราก็ต้องไปดูอีกครั้งนึงว่ามีส่วนไหนที่มีการพาดพิง เราก็ทำในส่วนของทนายความ ผมก็อยากฝากไปทางสตช.ด้วย ท่านมีโฆษกมั้ย แล้วท่านแถลงเองมั้ย หรือท่านต้องให้ท่านอัจฉริยะมาแถลงแทน แล้วออกมาเป็นรายวันแบบนี้ ผมว่าไม่ถูก
คุณอัจฉริยะบอกว่าลูกน้องถือบัญชีม้า บิ๊กโจ๊กจะไม่รู้ได้ยังไง?
อนันต์ชัย : ผมเห็นว่าเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง เดี๋ยวผมจะไปแกะเทป คำว่าไม่รู้ได้อย่างไรแสดงว่าท่านรู้ นี่อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องไปดูอีกที อันนี้อันตราย การสัมภาษณ์ก็อยากให้ใช้ความระมัดระวังนิดนึง
พี่แต้มมองยังไง?
พล.ต.ต.วิชัย : ท่านอัจฉริยะก็มิสิทธิ์พูดในฐานะภาคประชาชน แต่อย่างเดียวคืออย่าเอาข้อมูลทางราชการออกมาพูด เพราะบางทีเป็นทางการสืบสวน อยู่ระหว่างการสอบสวน จะมีผลไปถึงการสู้คดีกัน ท่านพูดได้แต่อย่าเอาข้อมูลราชการออกมา พูดในฐานะส่วนตัวก็ทำได้ แต่อย่าเอาความลับทางราชการออกมา แล้วมันจะผิด คนที่ให้จะผิดด้วย
อนันต์ชัย : ส่วนผมผมว่าดีนะ แหวกหญ้าให้งูตื่น เดี๋ยวคนเป็นทนายความเขาก็ไปป้องกันหมดสิ ไปตีฆ้องร้องป่าวอย่างนั้นอย่างนี้ คนที่มันรู้ว่ามันผิด มันป้องกันหมดแหละครับ ก็ดีไปอย่างนึง (หัวเราะ)
แกบอกมีข้อมูล 2 ปี บิ๊กโจ๊กไม่มีแผ่นดินอยู่?
อนันต์ชัย : ก็ไม่เป็นไร ข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลที่ผมใช้ในศาลหมดแหละครับ ผมก็ป้องกันของผมเอง
อีกเรื่องคือเรื่องที่คุณเอ ศุภชัยไปร่วมงานด้วย ที่คุณอัจเปิดออกมา รวมถึงภาพบิ๊กโจ๊กร้องเพลง แล้วมีทนายตั้ม?
อนันต์ชัย : ผมว่าเราควรให้เกียรติ คุณเอ ศุภชัยนะ ท่านก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นดารา การถ่ายรูปแบบนี้ก็ธรรมดา ยิ่งเดี๋ยวนี้มีมือถือก็ยิ่งธรรมดา การไปอ้างแบบนี้ทำให้เขาเกิดความเสียหายนะ อย่างที่บอกว่าถ้ามีนักอาชญากรข้ามชาติถ่ายรูปกับคุณหนุ่ม พอถ่ายรูปปั๊บคุณหนุ่มต้องเลวด้วยเหรอ
ไอ้กรรชัยถ่ายรูปกับเจ้าของเว็บสายดาร์ก ไอ้กรรชัยเป็นพวกสายดาร์กไปตบทรัพย์เขา ผมโดนเป็นปีแล้วนะ?
อนันต์ชัย : คุณหนุ่มดูเวลาเราไปไหน แฟนคลับขอถ่ายรูปกับเรา คุณปฏิเสธได้เหรอ ไอ้นี่หยิ่งจองหองจัง ถ้าเขาพูดไปเราเสียหายอีกนะ
แต่จะมีคนตรรกะวิบัติอย่างที่ผมเจอ?
อนันต์ชัย : เป็นพวกคิดอกุศล ฟังไม่ศัพท์จับไปกระเดียด แล้วเอาไปกระแนะกระแหนคนอื่นก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนอื่น ก็ต้องฟ้องร้องสิ
ก็ฟ้อง ขนาดฟ้องก็ยังไม่หยุด ไม่รู้กินดีหมีอะไร ก็ให้มันเก่งกันไป?
อนันต์ชัย : ผมบอกท่านสุรเชษฐ์ว่าต่อไปนี้การให้สัมภาษณ์ต้องระมัดระวัง การให้สัมภาษณ์มากเกินไปก็ไม่ดี เราควรเก็บหมัดของเราไว้ชกเมื่อถึงเวลา ฉะนั้นการที่เรามาชกข้างนอกโดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการทำลายคนอื่น ผมว่ามันไม่ควรนะครับ บางคนชอบฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด เหน็บไปสักนิดนึง
พี่ก็ปั่นผมเก่ง พี่แต้มคิดว่าวันนี้เรื่องการแต่งตั้งผบ.ตร.จะเกิดขึ้นมั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมไม่รู้ใจท่านนายกฯ จะฝ่าวิกฤตตรงนี้ยังไง แต่ผมมองว่าถ้ายืดยาวไปองค์กรตร.จะเสียหาย จะเกิดการแตกแยกมากขึ้น และจะมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างแรง กล้าตัดสินใจไปเถอะครับ ใครเป็นก็ได้ มีความรู้ความสามารถทุกคนแหละ
อนันต์ชัย : แต่ต้องตามกตินะครับ ตามกฎระเบียบ หนึ่งต้องอาวุโส มีความรู้ความสามารถ อาวุโสต้องมาก่อน
คิดว่าจะเลื่อนมั้ย?
พล.ต.ต.วิชัย : ผมไม่ทราบว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน แต่คิดว่าต้องมีการหยิบยก ถ้าจะเลื่อนต้องมีเหตุผลมากพอสมควร ถ้าไม่มีเหตุผลจะแย่ จะอ้างว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันไม่ได้เลย
อยากบอกอะไร?
อนันต์ชัย : ในฐานะที่ผมได้รับมอบหมายจากท่านสุรเชษฐ์ หักพาล ก็อยากฝากบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ผมจะทำความจริงให้ปรากฏ เอาสิ่งที่คว่ำอยู่หงายขึ้นมาเอาความจริงให้ประชาชนได้รับทราบ ถ้าหากท่านสุรเชษฐ์ หักพาลผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถ้าลูกน้องท่านผิดก็ว่ากันไปตามผิด เราจะไม่ทำดำให้เป็นขาว ผมก็ทำหน้าที่ของผมไป ในฐานะทนายความอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ และอยากฝากว่าเราควรฟังและพิจารณาด้วยวิสัยของปุถุชน อย่าเชื่อในสิ่งที่เขาเล่าว่าโดยไม่เห็นข้อเท็จจริงแค่นั้นแหละครับ ส่วนเรื่องฟ้องถนัดอยู่แล้ว ฟ้องให้ท่านเสรีมาเยอะแล้ว (หัวเราะ)