ออกหมายจับ กต.ตร.โรงพักเมืองปากน้ำ ขืนใจลูกจ้างหญิงชาวลาววัย 12 ซ้ำจ้างแรงงานผิด กม.

‘ปวีณา’ ลงพื้นช่วย ด.ญ.ชาวลาววัย 12 หนีพ่อแม่จากบ้านเกิดมารับจ้างทำงานบ้านได้ 3 วัน ถูกนายจ้างข่มขืน ขู่อ้างเป็นตำรวจ พบเป็น กต.ตร.โรงพักเมืองปากน้ำ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม ที่ สน.ทุ่งครุ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วยทีมงานและตัวแทนเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและสตรี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พา ด.ญ.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี ลูกจ้างสัญชาติลาว เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังษี ผกก.สน.ทุ่งครุ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีหลังจาก ด.ญ.ดาว ถูกนายจ้าง ซึ่งเป็น คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ในโรงพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ข่มขืนหลังทำงานแม่บ้านได้เพียง 3 วัน

นางปวีณากกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กันยายน ป้าได้พา ด.ญ.ดาว (นามสมมุติ) หลานสาววัย 12 ปี ทั้งสองเป็นชาวลาว เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ป้าแจ้งว่า นายหน้าพา ด.ญ.ดาว ที่นับถือตนเหมือนป้า เดินทางมาจากลาวไปรับจ้างทำงานบ้านอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งย่านทุ่งครุ กรุงเทพฯ โดยเจ้าของบ้านจ่ายเงินให้ 2,500 บาท กับนายหน้า โดยเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา

ต่อมาวันที่ 29 กันยายน เพื่อนของ ด.ญ.ดาว ส่งข้อความมาหาป้าว่า “ด.ญ.ดาวถูกนายจ้างข่มขืน” เมื่อป้าทราบจึงโทรหา ด.ญ.ดาวเพื่อสอบถาม ด.ญ.ดาวบอกป้าว่าถูกนายจ้างผู้ชายข่มขืนจริง โดยไขกุญแจเข้าไปกลางดึกตอนตี 1 แล้วบอกว่าเจ๊นายจ้างซึ่งเป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุนั้นได้ให้เข้ามานอนด้วย ด.ญ.ดาวขัดขืนแต่ถูกใช้แรงผลักบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นป้าได้พูดโทรศัพท์กับนายจ้างผู้หญิงถามว่านายจ้างผู้ชายได้ข่มขืน ด.ญ.ดาวหรือไม่ นายจ้างหญิงได้ตอบปฏิเสธ ป้าจึงขอรับตัว ด.ญ.ดาวกลับไป แต่เจ๊ หรือนายจ้างหญิงไม่ขัดข้อง หาก ด.ญ.ดาวอยากกลับไปด้วย

ADVERTISMENT

นางปวีณากล่าวอีกว่า เมื่อป้าเดินทางไปรับ ด.ญ.ดาว นายจ้างผู้หญิงบอกให้รอเฮีย หรือนายจ้างชายก่อน เพราะกำลังตามมา ทางป้าเกรงจะไม่ปลอดภัยจึงนั่งรถออกมาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจพาหลานเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

ด้าน ด.ญ.ดาวกล่าวว่า อยากทำงานหาเงินเพื่อนจึงชวนมาที่ไทยโดยที่ตนไม่ได้บอกพ่อแม่ นายหน้าเรียกเก็บเงิน 6,000 บาท เป็นค่าเดินทางและหานายจ้างให้ วันที่ 26 กันยายน ได้ไปทำงานบ้านและเลี้ยงลูกให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง ตกลงค่าจ้างที่เดือนละ 9,000 บาท โดยกินนอนอยู่ที่บ้านนายจ้าง โดยตนจ่ายเงินค่านายหน้าจำนวน 500 บาท ส่วนนายจ้างจ่าย 2,500 บาท ให้แก่นายหน้า แต่ทำงานอยู่ได้ 3 วัน

ADVERTISMENT

“คืนวันที่ 29 ก.ย.66 หนูเข้าห้องนอนและล็อกห้องไว้ ช่วงตี 1 จู่ๆ นายจ้างผู้ชายได้ใช้กุญแจไขประตูเข้ามาในห้องและใช้กำลังข่มขืนหนู บังคับไม่ให้หนูร้องขอความช่วยเหลือ หนูสู้แรงไม่ไหวและกลัวจนตัวสั่น นายจ้างผู้ชายกระทำจนสำเร็จความใคร่ก่อนจะออกไปจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอตอนเช้าหนูได้บอกเรื่องนี้กับเจ๊นายจ้าง เขารีบซื้อยาคุมฉุกเฉินให้หนูกินและบอกว่าไม่ให้เอาเรื่อง ส่วนนายผู้ชายก็บอกว่าเขาเป็นตำรวจทำอะไรเขาไม่ได้ ถ้าหนูไปแจ้งความตำรวจก็จะจับหนูเพราะหลบหนีเข้าเมือง หนูกลัวมากขอช่วยหนูด้วย” ด.ญ.ดาวกล่าว

นางปวีณากล่าวอีกว่า หลังรับเรื่องได้ประสาน พ.ต.อ.ธงชัย และประสาน น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กเเละครอบครัวกรุงเทพมหานคร มูลนิธิปวีณาฯได้รับเด็กผู้เสียหายเข้ารับการคุ้มครองที่บ้านพักเด็กทันที ก่อนจะนัดหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กกรุงเทพฯพา ด.ญ.ดาวไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งครุ ในวันที่ 30 ก.ย. พร้อมสอบสหวิชาชีพและตรวจร่างกายหลังดำเนินการแจ้งความเสร็จพนักงานสอบสวนได้พา ด.ญ.ดาว ไปชี้บ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเสร็จสิ้นภายใน 1 วัน

ด้าน พ.ต.อ.ธงชัยกล่าวว่า เบื้องต้นศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี, เป็นนายจ้าง รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน, ให้ที่พักพิงคนต่างด้าว, จ้างแรงงานผิดกฎหมาย

นางปวีณากล่าวด้วยว่า เด็กต่างด้าวหลบหนีเข้าประเทศไทยมาหางานทำเพราะความยากจน แต่กลับมีบุคคลกลุ่มหนึ่งอาศัยความยากลำบากของเด็กเอามาเป็นเครื่องมือของการทำมาหากินโดยพาเด็กไปค้าแรงงานเถื่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ก่อเหตุ บริเวณบ้านพักย่านสะแกงาม พระราม 2 แต่ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วน ด.ญ.ดาว ผู้เสียหาย อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กของ พม.ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image