‘วีระกานต์-ณัฐวุฒิ-วิภูแถลง-หมอเหวง’ได้ประกันคดีบุกบ้านสี่เสาฯหลังศาลอุทธรณ์จำคุก2ปี8เดือน

วันที่ 9 มกราคม 2560 ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และข้อหาอื่นๆ กรณีนำผู้ชุมนุมหลายพันคนไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรมลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550 โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายวีระกานต์ นายณัฐวุฒิ นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน และให้ยกฟ้องนายวีระศักดิ์และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด

โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนและประชุมหารือกันแล้วเห็นว่าคดีนี้มีพยานเป็นตำรวจหลายนาย รวมทั้งนักข่าวและช่างภาพอีก 2 คน ให้การสอดคล้องกันในรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ปรากฏในวีซีดีบันทึกการชุมนุม ดังนั้น จำเลยที่ 1 และที่ 4-7 จึงมีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 4-7 ฐานร่วมกันชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ตามมาตรา 215 รวม 2 กระทงนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย เนื่องจากการกระทำของจำเลยดังกล่าวมีเจตนาเดียว เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว ผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยที่ 4-7 ฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 ให้จำคุกคนละ 1 ปี ฐานเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ตามมาตรา 215 วรรค 3 เป็นบทหนักสุด อีกคนละ 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 พิพากษายืนยันตามศาลชั้นต้น

ต่อมา เวลา 18.00 น. ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์แล้วอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 5 คน โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิมคือ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาต

ภายหลัง นายณัฐวุฒิ จำเลยที่ 5 ให้สัมภาษณ์ว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตาในการให้ประกันตัว จากนี้จะหารือกับทนายความเพื่อรวบรวมหลักฐานต่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป เราน้อมรับและเคารพคำวินิจฉัยของศาล เมื่อกระบวนการยังไม่ถึงที่สุดก็เป็นสิทธิของจำเลยที่จะต้องต่อสู้คดีกันต่อ แม้ว่าพวกตนจะได้รับอิสรภาพแล้ว แต่ยังห่วงใยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ยังไม่ได้รับอิสรภาพ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราจะต้องดำเนินการเพื่อให้นายจตุพรได้รับการประกันตัวจากศาลต่อไป

Advertisement

เมื่อถามว่าอาการป่วยล่าสุดของนายจตุพรเป็นอย่างไรบ้าง นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ได้พบกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว อาการดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ยังไม่เรียกว่าหายดี อยู่ในระยะต้องเฝ้าระวัง ขณะนี้ทราบจากประชาชนที่ไปเยี่ยมมาว่านายจตุพรมีอาการหนาวสั่น และขอตัวกลับไปกินยาหลังจากการเยี่ยมเสร็จ พวกตนก็ห่วงใยและหวังว่าจะได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลภายนอก แต่ถ้าไม่สามารถออกมารักษาตัวภายนอกได้ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็เหมาะสมแล้ว

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ขอให้นายจตุพรได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลภายนอกหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ไปหารือกับอธิบดีด้วยวาจาแล้ว ท่านอธิบายเหตุผล ความจำเป็น หลักเกณฑ์และระเบียบของทางเรือนจำ สิ่งที่เราทำไม่ใช่การพยายามกดดันกระบวนการยุติธรรม หรือแทรกแซงการทำหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ แต่เป็นความห่วงใยในฐานะคนร่วมต่อสู้มาด้วยกัน หลังจากนี้จะไปเยี่ยมและติดตามอาการของนายจตุพรอย่างใกล้ชิด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image