“ทนายวันชัย”ชี้จุดบอดคดี”ครูจอมทรัพย์”ตกเป็น”แพะ”ขับรถชน

กรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาขับรถชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม เมื่อปี 2548 กระทั่งศาลพิพากษาให้จำคุกเมื่อปี 2556 เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน และได้รับอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 รวมเวลาจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากนั้นได้เข้าร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรมในการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ จากการตรวจสอบพบว่านางจอมทรัพย์ไม่ได้กระทำความผิดจริง ต่อมาผู้กระทำผิดตัวจริงได้ออกมายอมรับและสารภาพ ล่าสุดอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาลเพื่อสั่งฟื้นคดี เพื่อล้างมลทินให้กับนางจอมทรัพย์ ขณะที่ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ โพธิ์โหน่ง รอง ผกก.สภ.คำชี จ.มุกดาหาร ผู้ทำดคีนี้สมัยเป็นพนักงานสอบสวนที่ สภ.นาโดน จ.นครพนม ออกมาชี้แจงว่า ได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา มีหลักฐานชัดเจนในการมัดตัวนางจอมทรัพย์ให้เป็นผู้รับโทษ

เมื่อวันที่ 14 มกราคม นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)ด้านการเมือง เปิดเผยว่า เคยเป็นทนายความให้นางจอมทรัพย์ โดยเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้ว โดยประมาณปี 2549 นางจอมทรัพย์เข้ามาหาที่สำนักงาน ได้สอบปากคำและอ่านสำนวนคดี จากการพูดคุยเชื่อว่าไม่ได้ก่อเหตุจริงๆ พอได้อ่านสำนวน มองว่ามีพิรุธ2ประเด็น คือ1.พยานบุคคลที่เป็นประจักษ์พยาน2คนให้การขัดแย้งกัน คนหนึ่งเห็นทะเบียนเลข56 ช่วงเวลา20.00 น. พยานอีกคนให้การว่าเห็นชายลงจากรถ มองว่าจากสภาพแวดล้อมในเวลากลางคืนไม่น่าจะเห็นป้ายทะเบียนชัด เมื่อดูผลพิสูจน์หลักฐานเชื่อเลยว่าไม่ได้ทำผิด เพราะรถจักรยานที่ถูกชนมีร่องรอยสีเขียวติดที่ตะเกียบของรถจักรยาน และผู้เสียชีวิตกระเด็นตกมาที่ท้ายกระโปรงรถกระบะ แต่พอมาดูรถทะเบียน56ของนางจอมทรัพย์เป็นสีบรอนซ์น้ำตาล ไม่มีสีเขียว ไม่มีรอยบุบ ไม่มีรอยชนข้างหน้า กระโปรงไม่บุบ แต่แปลกใจว่าพนักงานสอบสวนยังอุตส่าห์ไปเชื่อมโยงว่าสีเขียวจากกรอบทะเบียนรถ แต่ผลพิสูจน์หลักฐานตรงกรอบทะเบียนรถไม่มีรอยเฉี่ยวชนแต่อย่างใด ตรงนี้ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ไม่มีอะไรที่จะชี้ได้เลยว่านางจอมทรัพย์เกี่ยวข้อง ในชั้นอุทธรณ์ได้ใส่ประเด็นเหล่านี้ไป จนศาลอุทะรณ์ยกฟ้อง

นายวันชัย กล่าวต่อว่า มาถึงชั้นศาลฎีกาทราบว่าอัยการให้น้ำหนักไปที่พยานบุคคล โดยชี้ว่าน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีความโกรธแค้นหรือขัดแย้งใดๆกับจำเลย จากคดีนี้มองว่ามีจุดบกพร่อง คือ1.ทนายของคดีในชั้นต้นไม่รอบคอบ ไม่หาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที และ2.ตร.ทำงานแบบรูทีน คือไม่มีการพิจารณาให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่จริงๆ คดีนี้พยานหลักฐานอ่อนมาก สามารถสั่งไม่ฟ้องได้ พยานขัดกันชัดเจน ส่วนอัยการควรต้องใช้ดุลพินิจอ่านสำนวนอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรม คดีนี้สะท้อนถึงความบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม

นายวันชัย กล่าวต่อว่า หลังออกจากเรือนจำ นางจอมทรัพย์มาพบ ขอรื้อฟื้นการเยียวยา จึงแนะนำว่าขอให้ไปร้องที่กระทรวงยุติธรรมจนมาสู่การรื้อฟื้นคดีในที่สุด อย่างไรก็ตามในส่วนของการเยียวยา มองว่า นอกจากการเยียวยาที่ได้เงินชดเชยแล้ว ในการเยียวยาทางจิตใจควรให้มากเป็นพิเศษ น่าจะให้เงินเดือนข้าราชการครูย้อนหลัง เพราะถือว่าเป็นเหยื่อของความบกพร่อง รวมถึงเรื่องชื่อเสียงเกียรติยศควรเยียวยาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม มองว่านางจอมทรัพย์มีสิทธิฟ้องร้องกระบวนการยุติธรรมทั้งตำรวจ และพยาน เพื่อเอาผิดทางแพ่งและทางอาญา โดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ถือว่าทำสำนวนอย่างเลินเล่อ ไม่ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมอย่างเต็มความรู้ความสามารถ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image