โฆษกย้ำ ไม่พบ ตร.รับผลประโยชน์รถสิบล้อบรรทุกเกิน จ่อกำหนดโซนให้กลุ่มบรรทุกหนักวิ่ง

โฆษก ตร.เผยยังไม่พบเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ‘สติ๊กเกอร์’ ที่คาดว่าเป็นส่วยของรถบรรทุกตกถนน

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) กล่าวถึงกรณีรถบรรทุกที่มีการบรรทุกน้ำเกินกำหนดจึงเกิดอุบัติเหตุตกท่อร้อยสายไฟฟ้าบริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 และพบว่ามีการติดสติ๊กเกอร์ที่คาดว่าอาจเป็นส่วยสติ๊กเกอร์นั้น เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหา ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เข้ามารายงาน ผบ.ตร.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการได้พูดคุยถึงประเด็นต่างๆ ดังนี้

1.การกำหนดโซนให้รถบรรทุกหนัก แต่ไม่เกินกำหนดเข้ามายังเขตกรุงเทพฯ หากมีการฝ่าฝืนก็จะเพิ่มโทษในการปรับและจับกุม ในการกำหนดโซนพื้นที่นั้นจะมีเวลา สถานที่ และแบ่งเป็นเรื่องน้ำหนัก ซึ่งได้มีการคิดสูตรและเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีส่วนหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

2.เรื่องสติ๊กเกอร์ที่ปรากฏหน้ารถบรรทุกคันดังกล่าว เบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องผลประโยชน์ หากใครมีข้อมูล หรือข้อเท็จจริงต่างๆ ที่พร้อมให้ข้อมูลในเรื่องนี้ สามารถเข้ามาแจ้งได้เลย

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจมองได้ว่าเป็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยนกล่าวว่า เรื่องข้อกฎหมายและการปฏิบัติทางตำรวจอาจต้องมาทบทวนและปิดจุดบอดบางอย่าง เช่น ตำรวจนครบาลไม่มีชุดเครื่องชั่งน้ำหนัก เพราะรถส่วนใหญ่วิ่งในเขตทางหลวง ซึ่งมีเครื่องชั่งน้ำหนักอยู่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่กำกับควบคุมดูแลเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกร่วมกับตำรวจทางหลวง ซึ่งจะมีการพูดคุยกันเรื่องเครื่องชั่งน้ำหนักโมบายให้ตำรวจนครบาลใช้ในการตรวจน้ำหนักรถ และต้องไปคุยกับกรุงเทพฯอีกครั้งเพื่อจะอุดช่องว่างตรงจุดนี้ ตำรวจจะพยายามทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า มีจุดทิ้ง หรือรับดิน อยู่บริเวณรอบสี่มุมเมืองหรือไม่ พล.ต.ท.อาชยนกล่าวว่า ในส่วนนี้ตำรวจนครบาลรับหน้าที่เป็นผู้วางแผนการจัดการเพื่อไปคุยกับกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพฯอีกครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image