อัยการเผยขั้นตอน หลัง”ผบ.ตร.”เห็นแย้งคดีโอนหุ้นชูวงษ์ ส่ง”อสส.”ชี้ขาด

เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีความเห็นแย้งพร้อมเสนอให้อัยการสั่งสอบเพิ่มเติมในบางประเด็น ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ เห็นควรสั่งไม่ฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมโบรกเกอร์สาว และพวกรวม 4 คนเป็นผู้ต้องหา ใน คดีร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้น มูลค่า 300 ล้านบาทของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จะต้องส่งสำนวนคดีและความเห็นอัยการ แจ้งไปยังผบ.ตร.เพื่อให้ ผบ.ตร.ทำความเห็นว่า สรุปเช่นเดียวกับอัยการ หรือจะเห็นต่างกับอัยการหรือไม่ หาก ผบ.ตร.เห็นชอบตามคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ขั้นตอนถือเป็นที่สิ้นสุดคือสั่งไม่ฟ้องคดี แต่ถ้า ผบ.ตร.เห็นแย้งกับความอัยการ โดยยังเห็นว่าสมควรจะให้ฟ้อง สำนวนจะส่งกลับมาอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ขั้นตอนหลังจากที่ส่งมายังอัยการสูงสุดแล้ว ตามระเบียบทางอัยการสูงสุดจะส่งสำนวนความเห็นของ ผบ.ตร.ไปยังอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด มีหน้าที่เป็นผู้กลั่นกรองเสนอไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการกลั่นกรองจนถึงอัยการสูงสุดชี้ขาดมีกรอบระยะเวลาหรือไม่ นายประยุทธ กล่าวว่า ในการพิจารณาของสำนักงานชี้ขาดคดีนั้นไม่มีกำหนด เราให้ความเป็นอิสระในการทำงาน แต่ทุกคดีที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นคดีใหญ่หรือเล็กเราเร่งรัดคดีด้วยความเป็นธรรม ยิ่งคดีนี้เป็นคดีสำคัญเป็นที่สนใจของประชาชนยิ่งต้องเร่งพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ

เมื่อถามว่าทาง ผบ.ตร. ขอให้สอบเพิ่มในบางประเด็นมีประเด็นใดบ้าง และจะพิจารณาสั่งสอบเพิ่มหรือไม่ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่า ความเห็นแย้งของ ผบ.ตร.ส่งมาถึงแล้วหรือยัง เพิ่งทราบข่าวจากทางสื่อมวลชน ส่วนเรื่องรายละเอียดในสำนวนว่าจะมีการพิจารณาสั่งให้สอบเพิ่มอย่างไรนั้นตนไม่อาจก้าวล่วงได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image