ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้รถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ ลักพาตัว น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง อายุ 28 ปี ลักษณะคล้ายผู้ชายไปจากบริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยเพชรเกษม 114 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่พักของ น.ส.สุภัคสรณ์ ที่ห้องเอ 413 เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ท้องที่ สน.หนองค้างพลู ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับ พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อายุ 58 ปี ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายนิวัฒน์ หรือโจ๊ก สวยทอง อายุ 32 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี นายภูมิทัศน์ หรืออุ๋ม พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี ชาว จ.ราชบุรี ร.ท.ชัยยุทธ หรือจบ เบ็ญจชาติ อายุ 41 ปี ทหารชาว จ.กาญจนบุรี จ.ส.อ.ภาณุเมศวร์ หรือจิ๋ว มีลา อายุ 34 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ทหารหน่วยหนึ่ง จ.ส.ต.สามารถ แสงสิน อายุ 50 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี อดีตตำรวจ และ น.ส.กรรณิกา หรือดาว กรุมรัมย์ อายุ 38 ปี ชาว กทม. นักร้องร้านอาหารแห่งหนึ่ง หญิงคนสนิท พ.ต.อ.อำนวย
โดย พ.ต.อ.อำนวย น.ส.กรรณิกา หญิงคนสนิทของ พ.ต.อ.อำนวย และนายภูมิทัศน์ เข้ามอบตัว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายนิวัฒน์ และส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน โดยทั้งหมดถูกส่งไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษธนบุรี
ต่อมามีการออกหมายจับนายสนอง สมสิทธิ์ อายุ 54 ปี หรือกำนันหนอง กำนัน ต.ลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี กระทั่งเข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 14 มกราคม
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 มกราคม ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ถนนสวนผัก พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู นำตัวนายสนอง ผู้ต้องหาที่ 8 ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ ฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-27 มกราคม เนื่องจากยังต้องสอบพยานบุคคลอีก 12 ปาก รอผลการตรวจดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ และในรถยนต์ของกลางจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) รอผลตรวจประวัติอาชญากร รอรายงานการตรวจศพประกอบสำนวนการสอบสวน
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ต่อเนื่องกัน คนร้าย 4 คน ร่วมกันใช้รถกระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า คาลิเบอร์ ทะเบียน ฒษ 4515 กรุงเทพมหานคร ลักพาตัวผู้เสียชีวิตขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากหอพัก และภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ น.ส.สุภัคสรณ์ถูกฆ่าตายและนำศพไปฝังไว้ที่สถานที่ก่อสร้างรีสอร์ตใน จ.กาญจนบุรี จากการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาอื่นที่ถูกจับกุมในคดีนี้ให้การพาดพิงว่านายสนองเป็นผู้ที่รับอาสาจาก พ.ต.อ.อำนวย ติดต่อนายนิวัฒน์กับพวกให้ร่วมกันพาตัวผู้เสียชีวิตไปจากที่เกิดเหตุและถูกทำร้ายเสียชีวิต และศาลจังหวัดตลิ่งชันได้อนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.18/2560 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหานี้ได้ เมื่อวันที่ 14 มกราคม แจ้งข้อหาใช้ จ้าง วานให้ผู้อื่นร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจจำยอม, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย การกระทำของผู้ต้องหาที่ 8 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84, 199, 289 (4) (7), 309 วรรคแรก และ 310 ทวิ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่บนถนนท้ายซอยเพชรเกษม 116 หน้าอาคารเคอาร์ แมนชั่น ตึกเอ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ และที่ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี เกี่ยวพันกัน ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาญาติของนายสนองยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นที่นาเนื้อที่ 14 ไร่เศษ ราคาประเมิน 1,019,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีอัตราโทษสูง และศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไว้ ทั้งพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน ประกอบกับคดีอยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้ต้องหาก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ทั้งยังนำชี้ที่เกิดเหตุซึ่งถือว่าเป็นตัวการร่วมที่สำคัญ ชั้นนี้จึงยังไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวนายสนองไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดที่พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ขอหมายจับผู้ต้องหารวม 8 ราย พนักงานสอบสวนสามารถจับกุมและควบคุมตัวยื่นคำร้องฝากขังไว้แล้วรวม 5 ราย
