อ่างทอง ยายอายุ 60 ปี สู้ชีวิตผิดทาง ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ หันมานั่งขายยาบ้าหน้าบ้าน หลังลูกชายติดคุก
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดอ่างทอง ยายอายุ 60 ปี สู้ชีวิตผิดทาง ป่วยเส้นเลือดสมองตีบ หันมานั่งขายยาบ้าหน้าบ้านหลังลูกชายติดคุก ด้านยายอ้างอยู่กับตา 2 คน ส่วนตาป่วยโรคประสาท ทำงานหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ โดยรับมาจากเพื่อนลูกชายเอามาขายเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก พ.ต.ท.เวทิศ สาลีสังข์ รอง ผกก.สส. สภ.ป่าโมก นายฉัตรชัย เย็นทรวง ปลัดอำเภอป่าโมก พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง อำเภอป่าโมก ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรป่าโมก
เข้าตรวจค้นเป้าหมายผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ตำบลป่าโมก โดยเข้าค้นเป้าหมายบ้านหลังหนึ่ง ในตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของนางสมพิศ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เป็นบ้านสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน หลังจากการสืบทราบพบว่ามีพฤติการณ์ค้ายาบ้า พบนางสมพิศนั่งเก้าอี้นวมอยู่หน้าบ้าน จึงเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางยาบ้าซุกซ่อนในตัว จำนวน 50 เม็ด จากนั้นจึงเชิญตัวไปตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งนางสมพิศล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบ พูดไม่ชัด และต้องใช้ไม้ค้ำยันในการเดินไปอย่างช้าๆ จากการตรวจค้นภายในบ้านไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นางสมพิศให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ที่ตนต้องหันมาค้ายาบ้า เนื่องจากตนมีภาระครอบครัวต้องดูแลหลาน เนื่องจากลูกชายและลูกสะใภ้ต้องโทษในคดียาเสพติด ซึ่งยังไม่พ้นโทษ ตนไม่มีรายได้และป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ ส่วนสามีก็เป็นโรคประสาท เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ ต้องอยู่กัน 2 คนตายาย จะออกไปทำงานหารายได้ก็ไม่ได้ ตนไม่รู้จะทำยังไง จึงตัดสินใจรับยาจากเพื่อนลูกชายไม่ทราบชื่อ มานั่งขายหน้าบ้านทุกวัน โดยรับมาขายครั้งละ 50-80 เม็ด เม็ดละ 30 บาท โดยรับมาเม็ดละ 20 บาท มีวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงานทยอยกันมาซื้อทุกวัน บางวันก็ขายจนหมดเกลี้ยงต้องรอเพื่อนลูกชายนำมาส่ง 2-3 วันครั้ง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ ใจเที่ยง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ป่าโมก ทำการสอบสวนขยายผล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ครอบครองเพื่อจำหน่ายเมทเอมเฟตามีน และทำการสืบสวนผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป