เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มกราคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาล นายวิรุฬห์ เเสงเทียน รองประธานศาลฎีกา พร้อมองค์คณะ 3 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล ที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล อดีตนักเขียนบทภาพยนตร์เเละผู้กำกับภาพยนตร์ และนายธรรศ วันพฤหัส อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา สภาผู้แทนราษฎร มีพฤติการเเสดงท่าทาง จ้องหน้า และเดินตามคณะพนักงานอัยการ ที่ว่าความคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 เวลา 12.00 น. ระหว่างการหยุดพักพิจารณาคดี ซึ่งอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559
โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคม องค์คณะได้มีหมายเรียกบุคคลทั้งสองมาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งทั้งสองรับว่าตามวันเวลาดังกล่าวได้หันไปมองหน้าคณะอัยการจริง ซึ่งศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะวินิจฉัยจริง จึงงดการไต่สวนเเละนัดฟังคำสั่งในวันนี้
โดยในวันนี้ ม.ล.มิ่งมงคล พร้อมด้วยทนายความ และนายธรรศ ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง
องค์คณะพิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ ม.ล.มิ่งมงคล และนายธรรศ เข้าไปยืนระยะประชิด และจ้องหน้าในลักษณะคุกคามพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในคดีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำในศาล จึงมีคำสั่งว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิด ไม่รักษาความสงบเรียบร้อยในศาล ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 มาตรา 18 วรรคสอง และประมวลกฎหมายพิจารณาแพ่ง มาตรา 31 (1) และมาตรา 33
ส่วนนายธรรศ แม้ไม่ยอมรับตามข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างว่าไม่ได้เดินตามพนักงานอัยการในระยะประชิด และไม่ได้ถ่ายรูปพนักงานอัยการ แต่เห็นว่า นายธรรศมาด้วยกันกับ ม.ล.มิ่งมงคล และเดินทางกลับด้วยกัน ตามหลักฐานภาพถ่ายในศาล จึงเชื่อได้ว่าหากมีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นคงเข้าไปช่วยเหลือ ดังนั้น นายธรรศจึงเป็นตัวการร่วมกับ ม.ล.มิ่งมงคล
เเต่เป็นเป็นการกระทำที่ไม่ร้ายแรงให้ ลงโทษสถานเบา สั่งปรับผู้ถูกกล่าวหาคนละ 500 บาท
ภายหลัง ม.ล.มิ่งมงคลกล่าวว่า ศาลมีคำสั่งเเล้วตนจะเขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวให้รออ่าน ส่วนวันนัดไต่สวนคดีจำนำข้าวคงไม่ได้มาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เเต่หากต่อไปมีเวลาว่างก็คงจะมา
