ตร.บุกค่ายทหาร คุมตัว ‘สิบเอก’ สอบเข้ม ต้องสงสัยฆ่าเด็กปั๊ม 2 ศพ อึ้งพบปืนอาก้าในบ้าน

ตร.คุมตัว ส.อ.ทหารต้องสงสัย ฆ่าเด็กปั๊ม 2 ศพสอบเครียด พร้อมลุยค้นบ้านพบปืนอาก้าทูตมรณะ ล่าสุดแจ้งข้อหาแล้ว

เมื่อวันที่ 18 มกราคม พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วยตำรวจ ชุดสืบสวน นครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 หลายนายได้ขอเข้าค่ายทหารพระยอดเมือง อ.เมือง จังหวัดนครพนม เพื่อขอตรวจค้นบ้านพักของสิบเอกทหารคนหนึ่ง

หลังจากได้ควบคุมตัวทหารคนดังกล่าวและนำมาสอบสวนก่อนหน้าแล้วโดยในการตรวจค้นดังกล่าวพบ อาวุธสงครามเป็นปืนอาก้า 1 กระบอก โดยทหารยศสิบเอก คนดังกล่าวพร้อมเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อเหตุหลายคดีในท้องที่จังหวัดนครพนม รวมทั้งคดีฆ่าโหดเด็กปั๊ม 2 ศพเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.67 คือ ท้าวพรมจัก อายุ 33 ปี ชาวบอลิคำไซ สปป.ลาว กับนางสาววิชชุดา อายุ 50 ปี อยู่บ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม

Advertisement

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยต่างๆ รวมทั้งสอบปากคำพยานในค่ายทหาร โดยหลังจากตรวจพบอาวุธปืนสงคราม ปืนอาก้าซุกซ่อนในบ้านพัก แล้วเจ้าหน้าที่ทั้ง พิสูจน์หลักฐาน และ COD ที่ได้บูรณาการร่วมกันได้ทำการตรวจสอบ หลักฐานต่างๆ ภายในห้องพัก พร้อมจะทำการเปรียบเทียบร่องเกลียวกระสุนปืนที่พบในศีรษะของพนักงานปั๊มน้ำมัน ที่ถูกยิงเสียชีวิต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากทหารยศสิบเอกผู้ต้องสงสัยให้การภาคเสธ ทำให้มีเวลากักตัวไว้เพียง 24 ชม. จึงต้องเร่งหาพยานหลักฐานเพื่อมัดตัวให้ทันเวลา และหลังจากตรวจค้นพบอาวุธสงครามในบ้านพักก็สามารถแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ก่อน

ขณะเดียวกัน นางสุพัตรา อายุ 53 ปี ญาติของเด็กปั๊มที่เสียชีวิต ได้ไปเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องสงสัยที่ฆ่านางสาววิชชุดา ที่ สภ.เมืองนครพนม หลังทราบข่าวว่าตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้จึงพาญาติพี่น้องมาเฝ้ารอ

Advertisement

นางสุพัตรากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ถ้าเจอจะถามว่า ฆ่าน้องสาวตนทำไม แต่พอทราบข่าวว่า เจ้าหน้าตำรวจไม่พาทหารยศสิบเอกมาที่ สภ.เมืองนครพนม แต่พาไปสอบเครียดที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งจึงได้พากันกลับ รอลุ้นที่บ้านว่า ตำรวจจับคนร้ายได้จริงตามที่เป็นข่าวหรือไม่

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก. สภ.เมืองนครพนม แต่ได้ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพียงพูดกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า รอผู้การให้สัมภาษณ์เรื่องนี้เพียงผู้เดียว

ล่าสุดหลังการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ทหารนายสิบ หรือสิบเอกพล อายุ 38 ปี ตำแหน่งพลขับทั่วไป เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ จ.มุกดาหาร เคยเป็นพลอาสากำลังทหารพรานมาก่อน จนกระทั่งสอบบรรจุรับราชการทหาร ย้ายมารับราชการในพื้นที่ จ.นครพนม ประมาณ 2 ปี โดยทางเจ้าตัวยืนยันให้การปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่พบการกระทำผิด เนื่องจากมีอาวุธปืนสงคราม แบบปืนยาวไม่ทราบชนิด รวมถึง เครื่องกระสุน ไม่ได้รับอนุญาต

ทางตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้น ฐานความผิดครอบครองอาวุธปืนสงครามโดยผิดกฎหมาย ไว้ในครอบครอง ส่วนฐานความผิดอื่นๆ รวมถึงหลักฐานที่จะเชื่อมโยงว่า เกี่ยวข้องในคดียิงพนักงานปั้ม จะได้มีการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง รวมถึงตรวจสอบอาวุธปืน และกระสุน ไปเทียบเคียงกับหลักฐาน ผลการชันสูตรศพผู้ตาย รวมถึง หัวกระสุนที่ตกในที่เกิดเหตุ จะต้องรอการยืนยันจากผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน

หากพบมีความชัดเจน จะได้แจ้งข้อหาความผิดต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม รอการสอบสวน เสนอศาลจังหวัดนครพนม ขอฝากขัง รอการดำเนินคดี ส่วนคดีฆาตกรรม เป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น

ทั้งนี้ทางตำรวจ ยังไม่ตัดปมฆาตกรรมทุกประเด็น ทั้งชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image