บิ๊กโจ๊ก ลงพื้นที่จังหวัดระนอง รับฟังความคิดเห็นคนไทยพลัดถิ่น ที่วอนให้รัฐบาลชะลอโครงการแลนด์บริดจ์กระทบแหล่งทำมาหากิน ทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลเพื่อไทย สานต่อโครงการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อให้สถานะแก่คนไทยพลัดถิ่น ซึ่งวันนี้ยังใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่หมู่บ้านห้วยปลิง หมู่ 7 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางลงไปที่หมู่บ้านดังกล่าวซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน กลุ่มคนไทยพลัดถิ่น
สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พบกับแกนนำชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ และเรียกร้องให้เข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมระหว่างที่เดินทางไปยื่นหนังสือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ แกนนำชาวบ้านเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ดูความเดือดร้อนของชาวบ้าน ซึ่งเป็นคนไทยพลัดถิ่นมากกว่า 3,000 คนในชุมชน ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ และพูดคุยกับหญิงชราหนึ่งในแกนนำชาวบ้านที่มีสถานะเป็นคนไทยพลัดถิ่น ชาวบ้านอยู่ด้วยความยากลำบากแสนเข็ญ กับการใช้ชีวิตที่ไม่มีบัตรประชาชน เนื่องจากรัฐบาล ยังไม่รับรองความเป็นคนไทย ทั้งที่ พ.ร.บ.สัญชาติไทยมีการแก้ไขเพิ่มเติม กรณีรับรองคนไทยพลัดถิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขณะที่แกนนำที่เคยออกมาเดินขบวนเรียกร้องโดยการเดินเท้าจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปยังกรุงเทพมหานครเป็นเวลา 18 วัน ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อขอให้ลงมาแก้ปัญหานี้ จนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ได้ริเริ่ม พ.ร.บ.สัญชาติ 2555 บอกว่า ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดออกมาจากรัฐบาล ทำให้พวกตนอยู่ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากไม่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกเพราะไม่มีบัตรประชาชน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพได้ ทำได้เพียงการทำประมงพื้นบ้าน ซึ่งวันนี้กำลังจะถูกเวนคืนพื้นที่ ไปทำโครงการแลนด์บริดจ์อีก
แกนนำกล่าวว่า อยากวิงวอนให้รัฐบาลยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย สานต่องานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ออก พ.ร.บ.สัญชาติ 2555 สำหรับคนไทยพลัดถิ่นไว้ และขอฝาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้ช่วยไปบอกต่อรัฐบาลให้ด้วยว่า เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกลับมาแล้ว ชาวบ้านก็มีความหวัง และขอวิงวอนให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย สานต่อ ความหวังของชาวบ้านพลัดถิ่น ให้ได้มีสถานะคนไทย อย่างที่เคยสัญญาไว้ด้วย
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวยอมรับว่า รู้สึกเห็นใจชาวบ้านเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้มาเห็นสภาพพื้นที่และความเป็นอยู่ของคนไทยพลัดถิ่น แต่อำนาจในการดูแลเรื่องนี้เป็นอำนาจของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นจึงทำได้เพียงเป็นตัวกลาง บอกต่อความรู้สึก และความต้องการของชาวบ้าน ไปยังรัฐบาล พร้อมกับแนะนำชาวบ้านว่า ขอให้จัดทำเอกสาร ปัญหาและความเดือดร้อนของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น เสนอไปยังนายกรัฐมนตรีพร้อมกับข้อเรียกร้องของโครงการแลนด์บริดจ์ ที่จะยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า จากที่เคยทำการสำรวจเรื่องความปลอดภัยของชาวบ้านโดยเฉพาะตามชายขอบ พบว่าทั้งประเทศยังมีกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นอีกมาก ที่ไม่ได้รับสถานะเป็นคนไทย ทั้งที่เกิดและโตในประเทศไทย จึงทำให้คนเหล่านี้ไม่ได้รับสิทธิการคุ้มครองตามสิทธิพลเมือง และยังติดตาม ตามรอย ได้ยาก เมื่อเกิดปัญหาหรือคดีอาชญากรรม ดังนั้นจึงเป็นอีกปัญหา ที่เชื่อมั่นว่าหากมีการดำเนินการสานต่อ ก็จะทำให้คนไทยพลัดถิ่นเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น