เปิดสาเหตุพ่อค้าข้าวแกง ถือมีดเข้า สนง.เขตบางขุนเทียน ขู่กระโดดตึก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 มีนาคม รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจท่าข้าม (รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม) รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งมีอาวุธปืน จะกระโดดจากที่สูง บริเวณสำนักงานเขตบางขุนเทียน ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำเขตบางขุนเทียน
โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ของสำนักงานเขตฯ ที่ชั้นดาดฟ้า พบตัวนายประวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อาชีพขายข้าวแกง นั่งพิงกำแพงอยู่กับกระถางต้นไม้ บนอาคารฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม จึงประสานให้ภรรยาและมาช่วยเกลี้ยกล่อม แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเจรจาแต่อย่างใด
เมื่อภรรยามาถึง ได้เข้าพูดคุยและเจราจราเป็นผลสำเร็จ โดยใช้เวลา กว่า 2 ชั่วโมง โดยนายประวิทย์ได้ ร้องขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปด้านล่างให้หมด และให้เหลือไว้เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงจะยอมลงด้านล่าง กระทั่งสามารถควบคุมตัวไว้ได้ก่อนพาตัวไปสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบถาม นายจตุพล มหาชัย อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาเขตบางขุนเทียน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ก่อเหตุเปิดร้านขายข้าวแกงกับภรรยาในตลาดด้านหลังสำนักงานเขต และเกิด ทะเลาะวิวาทกัน
โดยทางผู้ก่อเหตุได้ทุบตู้กระจกที่ใช้สำหรับโชว์อาหาร ของร้านจนแตก และมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง แต่ไม่มีการลงไม้ลงมือ เพียงแต่ได้ยินว่า “ทุกวันนี้ก็เหนื่อยมากแล้ว ไม่อยากจะวุ่นวายแล้ว”
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา จากนั้นได้มีการส่งรูปภาพอาวุธปืน เข้าไปที่ไลน์ของภรรยา จนเกิดความกลัว และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้าย กระทั่งผู้ก่อเหตุรู้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่อง และกำลังติดตามตัว จึงได้ขับรถเก๋ง ไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อผู้ก่อเหตุมาถึงบริเวณทางเข้าสำนักงานเขตฯ และเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจดักอยู่บริเวณปากซอย จึงจอดรถและหลบหนีเข้ามาภายในสำนักงานเขต โดยขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า พร้อมนำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้บริเวณพุ่มไม้ด้านบน ภายหลังเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว จึงตรวจค้นโดยรอบจนพบอาวุธปืนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่
โดยภายหลังจากภรรยาเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม มีเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ท่าข้าม ยืนควบคุมสถานการณ์ จนผู้ก่อเหตุยอมลงจากด้านบน ส่วนสาเหตุเกิดจากทะเลาะกับภรรยา จนทำให้เกิดความเครียดมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นจะนำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิต หากพบว่าป่วย ทางภรรยาก็จะนำตัวผู้ก่อเหตุไปรักษาต่อไป
