ความคืบหน้ากรณี น.ส.เอส (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ธีระ เรืองเนตร รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ว่ามีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายร่างกายบุตรชายถึงบ้านพักภายในชุมชนศรีอุลัย ตั้งอยู่เลขที่ 984 ซอยวัดดาวดึงษาราม ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา
โดยน.ส.เอส กล่าวว่า ในบ้านพักอาศัยรวม 5 คน มี ตน สามี นายเอ (นามสมมุติ)อายุ 22 ปี ลูกชายคนโต น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสาวคนกลาง และด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ ลูกสาวคนเล็ก ปกติตนและสามีประกอบอาชีพขายอาหารตามสั่งอยู่ย่านบางลำภู เวลา 20.00 น. – 03.00 น. ก่อนเกิดเหตุตนและสามีไปขายของตามปกติ แต่จู่ๆตนเกิดเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนขึ้นมาจึงขอตัวกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงบริเวณกลางซอยในช่วงเวลา 02.30 น. วันที่ 29 มกราคม พบบุตรสาวทั้ง 2 คนยืนตัวสั่นอยู่ โดยน.ส.บี เล่าว่า เวลาประมาณ 01.30 น. พี่ชายไปมีเรื่องกับเพื่อนในวัดดาวดึงษาราม จากนั้นเวลา 02.00 น. ได้เดินทางกลับเข้ามาบ้านพัก เมื่อผ่านไปได้สักระยะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือท่อนเหล็กขี่รถจักรยานยนต์และซ้อนท้ายมาอยู่ที่หน้าบ้านรวม 5 คน หนึ่งในนั้นคือ “เน วัดดาว” ก่อนในกลุ่มจำชื่อได้คือนายโบ๊ต เป็นเพื่อนกับพี่ชายเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ประตูกระจกบานเลื่อนหน้าบ้าน พร้อมทั้งเรียกชื่อพี่ชาย โดยออกอุบายว่า”เน วัดดาว” เรียกให้ออกมาหาหน่อย ขณะนั้นตนเห็นท่าพี่ชายมีอาการไม่ดียืนตัวสั่นคล้ายเกิดความกลัวจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปปิดประตูเหล็กเลื่อนลงมาแต่จู่ๆนายโบ๊ตกลับใช้ท่อนเหล็กตีประตูกระจกบานเลื่อนจนแตกร้าวทั้งบานก่อนกลุ่มชายฉกรรจ์จะวิ่งกรูเข้ามาใช้ก้อนหินกระหน่ำปาประตูกระจกบานเลื่อนจนแตกละเอียดก่อนหนึ่งในกลุ่มจะหยิบเศษกระจกปาใส่ขาพี่ชายตนจนได้รับบาดเจ็บด้วยความตกใจ จึงเรียกให้พี่ชายเข้าไปหลบอยู่ในห้องด้านใน ส่วนตนจึงพาน้องสาววิ่งหนีออกมาจนกระทั่งมาพบตน
“หลังเกิดเหตุเป็นห่วงลูกชายมากจึงรีบเข้าไปในบ้านพบว่ามีเลือดไหลนองเต็มขา จะพาไปโรงพยาบาลแต่ลูกชายไม่ยอมไป จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความ ทั้งนี้ลูกชายตนป่วยมีอาการโรคทางจิตต้องเข้ารับการรักษาตัวที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับกลุ่มวัยรุ่นภายในซอยรวม 3 ครั้ง จนเป็นเหตุให้กลุ่มวัยรุ่นยกพวกมาปิดล้อมหน้าบ้าน ตนเคยโดนทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน และทุกครั้งที่เกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความแต่เรื่องก็เงียบ จนมาครั้งนี้ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายเนวัดดาวได้โดยให้ข้อมูลว่าจะไม่ให้ประกันตัว แต่ยังได้รับการประกันตัวในวันนี้จำนวนวงเงิน 75,000 บาท นอกจากนี้เกรงว่าทางครอบครัวจะได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ทุกวันนี้บ้านหลังเกิดเหตุตนก็ไม่กล้าเข้าไปพักอาศัยต้องพาครอบครัวมาขออาศัยอยู่กับแม่ บริเวณหน้าปากซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 2 ” น.ส.เอส กล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.ธีระ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับนายมครินทร์ พุ่มสะอาด อายุ 26 ปี หรือเนวัดดาว โดยผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว พร้อมให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนให้ประกันตัวในวันนี้ หลังจากนี้จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางยี่ขัน เร่งติดตามตัวนายโบ๊ตพร้อมทั้งกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีความผิดจริงเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหา ร่วมกันบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และทำให้เสียทรัพย์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
