จากกรณี ผศ.ดร.บรรพต วิรุณราช คณบดีวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ให้ดำเนินคดี ศ.ดร.พจน์ สะเพียรชัย อุปนายกทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยบูรพา กับพวก รวม 11 คน ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 9/2557 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หลังจาก ศ.ดร.พจน์ จัดประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 ที่โรงแรมเดอะสุโกศล โดยมีวาระการแต่งตั้งรักษาการอธิการบดี การดำเนินการดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ซึ่งทางผศ.ดร.บรรพต เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการพิจารณาเพื่อรับการสรรหาจากกรรมการ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการพิจารณา โดยที่ประชุมครั้งนั้นมีมติให้ ศ.นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดีทำหน้าที่รักษาการอธิการบดีต่อไป จนเกิดการคัดค้าน รวมทั้งมีการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิกถอนมติดังกล่าว กระทั่ง คสช.ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 เพื่อยุติความวุ่นวาย และออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ต่อมาทาง รมว.ศึกษาธิการ โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีคำสั่งให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยพ้นจากตำแหน่ง และมีการส่ง รศ.สมนึก ธีระกุลพิศุทธิ์ ทำหน้าที่รักษาการอธิการบดี นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.กล่าวว่า ทาง ศ.นพ.สมพล ผศ.ดร.รัชนีภรณ์ ทรัพย์กรานนท์ และผศ.ดร.วิโรจน์ เรืองประเทืองสุข กรรมการสภาฯ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน บก.ป.ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แล้ว
พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และเนื่องจากทั้งหมดเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเอง จึงพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนี้จะนัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 8 ราย ทั้งหมดมีการประสานเพื่อทยอยเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ในระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนวันละ 3 ราย ทั้งนี้ หากการดำเนินการในขั้นตอนการสอบสวนแล้วเสร็จ ทางพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีและให้ความเห็นของพนักงานสอบสวน ส่งให้อัยการพิจารณาเพื่อมีความเห็นสั่งฟ้องคดีต่อไป
