รองผบช.น. ล่าไม่ปล่อยเร่งหาหลักฐานออกหมายจับอย่างน้อย 4 คนขบวนการจ้างวานฆ่า “เสี่ยต้น”
กรณีน้องสาวนายพิชิต กลีบจินดา หรือต้น อายุ 44 ปี เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เข้าร้องเรียนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังสงสัยว่าพี่ชายที่เสียชีวิตเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจถูกฆาตกรรม ที่บ้านจังหวัดมหาสารคาม นอกจากนี้ยังพบว่า เสี่ยต้น ถูกคนร้ายพยายามฆ่าโดยประกบยิง เหตุเกิดพื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่บก.สส.บช.น. พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม รองผบก.น.4 บก.สส.ภ.4 สน.วังทองหลาง และกก.สส.บก.น.4 กว่า 2 ชั่วโมงว่าเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในฐานะพยานไปแล้วจำนวน 25 ปาก โดยให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยประสานงานกันระหว่างพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล(บช.น.)กับพนักงานสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมร่วมกันอีกครั้งและร่วมกันตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าสําหรับคําให้การผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง และเหตุพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ตำรวจทั้งสองหน่วยร่วมกันวิเคราะห์และพิสูจน์ทราบรวมถึงตรวจสอบข้อมูลทั้งสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุและการสอบปากคําบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนํามาประกอบในสํานวนคดี การสืบสวนของพื้นที่ สน.วังทองหลาง ปมความความขัดแย้งมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยประเด็นที่ตั้งไว้ว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับคู่กรณีส่วนไหนบ้างนั้น ในการทําธุรกิจ ปรากฏว่าไม่พบเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจแต่อย่างใด รวมถึงไม่พบว่าผู้ตายเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใครมาก่อน ตํารวจจึงตัด 2 ประเด็นนี้ ทิ้งไป
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่าส่วนประเด็นความขัดแย้งอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ซึ่งในชั้นนี้จากพยานหลักฐานทั้งหมดที่ฝ่ายสืบสวนรวบรวมแล้วเชื่อได้ว่าเป็นการใช้จ้างวานมือปืนรับจ้างเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ สน.วังทองหลาง เบื้องต้นพบมีผู้กระทําผิดไม่ตํ่ากว่า 4 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานให้รอบคอบและรัดกุมที่สุดเพื่อเสนอศาลออกหมายจับ ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดพบว่ากลุ่มมือปืนยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่เขตนครบาลและนอกพื้นที่ด้วย
พล.ต.ต.นพศิลป์ ฝากถึงญาติผู้เสียชีวิตว่า เจ้าหน้าที่ตํารวจทุกคนทั้งฝ่ายสืบสวนสอบสวนกําลังพยายามทํางานหนักอย่างเต็มที่ เพื่อคลายความสงสัยและทําความจริงให้ปรากฏรวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อใช้ดําเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายอย่างถึงที่สุด พร้อมทิ้งท้ายว่า “พวกเรากัดไม่ปล่อย ล่าไม่ปล่อยแน่”