เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่20กุมภาพันธ์ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 (บก.ตชด.ภ.1) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้าพบพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 เพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในวันนี้ไม่ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับดีเอสไอ แต่เดินทางมาให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบสถานการณ์เบื้องต้นยังสามารถควบคุมได้ปกติ ต้องดูว่าจะมีเหตุการณ์อย่างไรต่อไป ส่วนกรณีจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อีกหรือไม่คงไม่ต้องแล้ว เพราะตอนนี้เรียกมา26กองร้อย(3,900นาย) ทั้งหมดต้องดูแลความปลอดภัยทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนด้วย สำหรับกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ ขึ้นอยู่กับหมายค้นและอธิบดีดีเอสไอจะตัดสินใจ เพราะยังมีอำนาจตามมาตรา 44 อยู่ สำหรับมวลชนและพระที่อยู่ในวัดพระธรรมกายนั้น เบื้องต้นจากการประเมินมีอยู่4,000-5,000คน วัดพระธรรมกายมีช่องทางในการพูดโฆษณาชวนกลุ่มลูกศิษย์มาอยู่แล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามคัดกรองมวลชน ไม่ใช่การสกัดกั้น หากมีจำนวนมวลชนมาเติมก็ดี เราจะได้รู้จำนวนที่แท้จริง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพระต่างประเทศไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวนั้น ก็พิจารณากันไป แต่มาตรา 44 ตนรับนโยบายมาจากรัฐบาล และดีเอสไอเป็นผู้ร้องขอ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงมากและไม่อยากเห็นภาพการกระทบกระทั่ง ไม่ใช่การปะทะ เรื่องแบบนี้ใครเริ่มก่อนแพ้
“ฝากถึงหลวงพ่อธัมมชโยให้กล้าหน่อย มีหมายจับก็ต้องมามอบตัว มาต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ให้ดูตัวอย่างนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ และนายสนธิ ลิ้มทองกูล ที่รู้แน่ ๆ ว่าต้องติดคุกแต่ก็ยังมา หากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะน่าศรัทธามากกว่านี้ มีพระที่ไหนใส่หน้ากากเวลาบิณฑบาตรทุกวัน ไม่เคยเห็น ไม่มี มีที่นี่ที่เดียว”พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะวางกำลังเจ้าหน้าที่บริเวณโดยรอบพื้นที่วัดพระธรรมกายไปจนถึงเมื่อไหร่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น หมายค้นเมื่อหมดแล้ว ก็สามารถขอใหม่ได้ อีกทั้งตนเป็นฝ่ายสนับสนุน ส่วนเรื่องการตัดสินใจขึ้นอยู่กับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กับอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งจะเป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้เอง
