โฆษกอัยการเผย สำนักงาน ก.อ. ตั้งเรื่องสอบวินัยอัยการฉาว รีด 2 แสนบาท หลังอสส.สั่งเด้งด่วน ชี้ยังพักราชการไม่ได้ จนกว่าจะตั้งสอบวินัยร้ายเเรง เผยอัยการ ชงเเก้กฎหมายให้สั่งพักราชการอัยการได้เลยหากความผิดชัดเเจ้ง อยู่ระหว่างประชาพิจารณ์
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวถึงกรณี ที่วันนี้ ป.ป.ช.-ป.ป.ท. นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง จับอัยการผู้กลั่นกรอง สำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราชมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกดำเนินคดี ในคดีลักทรัพย์โฉนดที่ดิน โดยอ้างว่า สามารถวิ่งเต้นเคลียร์คดีให้กับผู้เสียหายได้
แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการจำนวน 200,000 บาท ว่าขณะนี้ระหว่างที่อัยการสูงสุดรอรับรายงานจากนายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8 เกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนบุกจับ นายชาตินรินทร์ ภายในห้องทำงานสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเงินของกลาง 2 แสนบาทในการเรียกรับผลประโยชน์นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดทราบเรื่อง ได้สั่งย้ายนายชาตินรินทร์มาส่วนกลางทันที เพื่อสะดวกในการสอบสวน โดยได้ย้ายประจำสำนักงานคดีแรงงาน สำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีผลวันนี้ ขณะเดียวกันทางสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นด้านวินัยด้วยเเล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความผิดที่กระทำชัดเจนคาหนังคาเขา นอกจากให้ย้ายมาแล้ว สามารถให้ออกจากราชการไว้ก่อนได้หรือไม่
นายประยุทธกล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการปี 2553 มาตรา 80 กำหนดให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งพักราชการได้เมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายเเรง หรือมีการฟ้องคดีอาญาพนักงานอัยการคนนั้นแล้วดังนั้น กรณีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสอบข้อเท็จจริงขั้นต้น ซึ่งตามมาตรา 74 ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วันจึงต้องรอขั้นตอนดังกล่าว
นายประยุทธยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีความผิดชัดแจ้ง แต่กฎหมายไม่ให้พักราชการทันทีซึ่งในประเด็นนี้ นายอำนาจ อัยการสูงสุดและผู้บริหารได้มีการเสนอแก้กฎหมายในประเด็นข้อนี้ ซึ่งทางนายอำนาจได้มีการเสนอแก้กฎหมายในประเด็นนี้มาก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้เพื่อให้สามารถสั่งพักราชการในกรณีความผิดชัดแจ้งได้ และร่างกฎหมายนี้ได้ผ่านประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้ว
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชนที่ต่อองค์กรอัยการ แต่อย่างไรก็ตามอัยการสูงสุดได้ให้ความมั่นใจ ให้ความสำคัญ มีมาตรการเด็ดขาดการดำเนินคดี และการสอบสวนวินัย ซึ่งทุกครั้งที่เกิดคดีทำนองนี้จะบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาดเป็นมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง” นายประยุทธย้ำ