“สุวพันธุ์”ถวายรายงานสังฆราช กรณีธรรมกาย เผยทรงขอยุติด้วยความเรียบร้อย ไม่รุนแรง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงยุติธรรม นายสุวพันธุ์ ตันยุววรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ทราบว่าเมื่อเช้ามีการประชุมร่วมกับวัดพระธรรมกายอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ต้องการเข้าไปในพื้นที่วัดอีก เพื่อทำหน้าที่ของเราให้เสร็จสิ้น และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต้องสามารถตอบคำถามกับรัฐบาลและสังคมได้ ที่สำคัญรวมทั้งศาลที่ออกหมายค้นให้เราด้วย เพราะเมื่อปฏิบัติหน้าที่แล้วจะต้องชี้แจงต่อศาลให้รับทราบ ทั้งนี้ทราบว่าในการพูดคุยหารือกันมีความคืบหน้า แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานโดยละเอียด

“รัฐบาลมอบหมายนโยบายให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด และให้ปฏิบัติงานด้วยความอดทน รับผิดชอบ รักษาวินัย และที่สำคัญต้องทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ อยากเรียนต่อสังคมว่าทางฝ่ายราชการกำลังปฏิบัติงานตามหน้าที่ จึงอยากได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อทำเรื่องให้ได้ข้อยุติที่เป็นผลดีต่อส่วนรวมทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นไปแล้ว แต่มีบางส่วนที่เราต้องการขอตรวจค้นเพิ่มเติม เพื่อตอบข้อสงสัยทั้งหมด ชุดที่ทำงานอยู่อาจยังมีข้อสงสัยถือเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้สั่งการไปว่าให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไปตามที่เห็นสมควรโดยร่วมมือกับผู้แทนของมหาเถรสมาคม(มส.)ด้วย ทราบว่ามีตัวแทนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.)เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ยืนยันว่าที่ทำวันนี้นั้น ทำไปตามข้อกฎหมายทั้งสิ้น และวิธีการปฏิบัติก็เป็นไปตามมาตรฐาน” นายสุวพันธุ์ กล่าว

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า มีการถวายรายงานสมเด็จพระสังฆราชฯทั้งทางโทรศัพท์ ท่านมีพระประสงค์ให้เรื่องยุติลงด้วยความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และไม่เกิดเหตุรุนแรง ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติต้องรับข้อห่วงกังวลทุกด้านมา สิ่งที่ทำอยู่ในขณะนี้ คือยึดหลักความอดทน ไม่ให้เกิดความรุนแรง ทุกอย่างเราจะดำเนินการหลายวิธี โดยสิ่งที่อยากจะเห็นก็คือ ทุกอย่างเดินไปตามข้อกฎหมายและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยไม่มีการกำหนดเส้นตายแต่อย่างใด ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องมีวิธีการปฏิบัติไปตามความเหมาะสม ตอนนี้ที่ห่วงคือ 1.เรื่องของพระธัมมชโย มีหมายจับและหมายค้น ที่ต้องดำเนินการติดตามเพื่อให้ได้ตัวพระธัมมชโย เพื่อมอบให้อัยการ จะพบหรือไม่พบตัวเป็นเรื่องของการปฏิบัติที่เรายังไม่รู้ ทั้งนี้การปฏิบัติการพบหรือไม่พบตัวต้องมาบอกให้ทราบ 2.ทางมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะต้องเข้ามามีส่วนดำเนินการเรื่องนี้ในอนาคตที่จะต้องหารือกันต่อไป

“ทุกฝ่ายต้องการอย่างนั้น เป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่ต่อไปทางมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาฯจะต้องเข้ามาช่วย ทั้งนี้ ขอให้รอจบการดำเนินการงานในส่วนของกระทรวงยุติธรรมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ขณะนี้เบื้องต้นการปฏิบัติการ ยังสามารถใช้มาตรา44 แต่ต้องขอดูวันนี้ถึงจะสามารถตอบได้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนกรณีพระสนิทวงศ์ โพสต์หมายเลขโทรศัพท์ผมนั้น ตนไม่ทะเลาะกับพระ สังคมรู้ดีว่าอะไรควร อะไรไม่ควร”รมว.ยุติธรรมกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image